การสร้างเป้าหมายความสำเร็จส่วนบุคคล
ตั้งแต่ยุคโบราณสิ่งที่มีความจำกัดอย่างแท้จริงของมนุษย์ที่เป็นความสัจจริงนั่นก็คือ “เวลาของมนุษย์เอง”
ไม่มีมนุษย์คนใดที่จะมีชีวิตอยู่ยงคงกระพันไปตลอดได้ ผมคิดว่ามันน่าเสียดาย ที่มนุษย์ใช้เวลาที่มีอยู่อย่างจำกัดไปกับสิ่งที่ตัวเองไม่มีความสุข ใช้ชีวิตภายใต้บรรทัดฐานของสังคมนั้นๆ หรือทำตามกรอบที่ใครคนใดคนหนึ่งกำหนดให้ โดยที่ตัวเขาเองไม่ได้มีโอกาสทำสิ่งที่ตัวเองต้องการ หรือจนตายไปแล้วเขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชีวิตของเขาอยากทำอะไร
คุณเคยได้ยินไหม? หลายคนรอบตัวคุณ หรืออาจจะเป็นคนที่คุณไม่รู้จักด้วยซ้ำ มาบอกคุณว่า “คุณต้องแต่งงานตอนอายุ 25 ปี ต้องมีบ้าน ต้องมีลูกก่อนอายุ 30 ปี ต้องมีสมาร์ทโฟนรุ่นนั้น ต้องมีคอมพิวเตอร์รุ่นนี้ ต้องมีเงินเดือน มีตำแหน่งใหญ่โต มีหน้ามีตา มีเงินเก็บ 1 ล้านบาทให้ได้ก่อนถึงอายุ 30 ปี หรือ อื่นๆ อีกมากมาย
ถ้าคุณไม่ทำได้ตามนั้นจะถือว่า คุณล้มเหลว คุณไม่เท่ ไม่มีหน้ามีตา จะโดนดูถูกจากคนอื่น หากลองกลับมาลองคิดดูแล้ว ใครกันเล่าเป็นผู้กำหนดบรรทัดฐานเหล่านั้นให้เราต้องทำตาม ให้เราต้องซื้อของตาม ทำไมเราต้องเอา “เวลา” ที่มีอย่างจำกัดไปใช้เพื่อทำงานแลกเงิน เพื่อไปเดินตามสิ่งที่คนอื่นกำหนด ทำตามความฝันของคนอื่น ไปซื้อของที่แท้จริงแล้วคุณอาจจะไม่ได้ต้องการ
อาจจะเพื่อนำไปอวดคนอื่น เพื่อให้คนอื่นที่คุณอาจจะไม่ได้รู้จักด้วยซ้ำ ให้พวกเขาบอกคุณว่าคุณนั้นเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ “เวลา” ที่เป็นทรัพย์ที่มีจำนวนจำกัดของเรานั้น นำไปแลกกับคำชม เดินตามบรรทัดฐานของผู้อื่นนั้น
มันคุ้มค่าจริงๆ หรือ?
ผมขอยกเอาคำพูดของนักวิทยุชื่อดัง ซึ่งได้กล่าวไว้ว่า..
“We buy things we don't need with money we don't have to impress people we don't like” “เราซื้อของที่เราไม่ต้องการ ด้วยเงินที่เราไม่มี เพื่อที่จะโอ้อวดคนที่เราไม่ได้ชอบ”
Dave Ramsey
นั่นสินะ ทำไมเราทำแบบนั้น?
ทำไมคนเราถึงไม่ทำตามเป้าหมายชีวิตของตัวเอง แต่ไปทำตามผู้อื่น ?
ผมไม่ได้คิดว่านี่เป็นความผิดที่ตัวบุคคล แต่เป็นการที่เราถูกบีบบังคับ ให้เราต้องทำตามบรรทัดฐานเหล่านั้นนั้น เป็นเพราะสภาพแวดล้อมทางสังคมที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง และที่สำคัญมันเกิดจากสิ่งที่ใช้เป็นที่เก็บเงินของมนุษย์ถูกทำให้มีการรั่วไหลได้
คนหลายคนหาเงินมาได้เท่าไรก็ไม่พอใช้ ไม่พอเก็บ มนุษย์หลายคนไม่สามารถมองการณ์ไกลได้ ต้องทำงานหาเงินมาใช้จ่ายไปตลอดชีวิต เราไม่สามารถหยุดทำงานได้ มันน่าเศร้ามากๆ ที่บางคนอาจจะทำงานทั้งวันเพื่อให้มีเงินพอซื้อหาอาหารให้แค่มีชีวิตรอดผ่านวันนี้ไปให้ได้ หลายคนไม่สามารถทำงานจนมีเงินเก็บได้มากพอที่จะทำให้เขาหยุดคิดจนสามารถตระหนักถึงความฝันของตัวเองได้
แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงระบบการเงินของโลกกำลังเกิดขึ้นอยู่ และเราสามารถเห็นได้ตาตัวเอง ระบบการเงินดั้งเดิมที่มีข้อบกพร่องที่สำคัญในการเก็บรักษามูลค่าเวลาของมนุษยชาติกำลังถูกระบบการเงินใหม่กัดกร่อนทีละเล็กทีละน้อย
ในที่สุดมนุษย์จะสามารถการเก็บเงินในสิ่งที่ไม่ถูกทำลายมูลค่า ในสิ่งที่คนผลิตเงินขโมยเงินเก็บของคุณแบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เป็นระบบการเงินใหม่ที่มีความปลอดภัย มีความเป็นส่วนตัว และสามารถครอบครองได้อย่างแท้จริงโดยไม่ต้องพึ่งตัวกลาง
แต่กว่าจะถึงวันนั้น ณ ตอนนี้ เวลานี้เราจะทำอะไรได้บ้าง เพื่อให้เราใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข ไม่ถูกครอบงำด้วยบรรทัดฐานอะไรบางอย่างที่ไม่สมเหตุสมผล เพราะคนเรามีสภาพแวดล้อม และศักยภาพที่แต่งต่างกัน
Personal challenge คืออะไร ?
Personal challege (การสร้างเป้าหมายความสำเร็จส่วนบุคคล) เป็นแนวคิดที่เกิดขึ้นมาในวงการเกม
เนื่องจากในแต่ละเกมผู้พัฒนาจะกำหนดให้คุณต้องเก็บคะแนนจำนวนเท่านี้นะ ต้องฆ่าบอสด้วยเวลาเท่านี้ ต้องเก็บเลเวล หรือมีเงื่อนไขอื่นๆ ที่คุณเองก็ไม่ได้ชอบ เพราะมันอาจจะยาก หรือ ง่ายเกินไป ผู้เล่นก็เล่นไปกฎเกณฑ์ที่ผู้พัฒนากำหนดขึ้นมา
จนมาถึงจุดหนึ่งกลุ่มผู้เล่นเกมก็ตระหนักได้ว่า เพราะอะไรกันนะ ทำไมเราต้องเล่นเกมตามที่ผู้พัฒนากำหนดไว้ด้วย หากคุณพบว่าเกมมันง่ายไป คุณก็ลองเพิ่มความท้าทายได้นี่นา คุณสามารถทำได้ด้วยตัวคุณเองในทันทีด้วยซ้ำ
ลองถอดอาวุธออกสักชิ้นสิ ในปาร์ตี้ต้องมีสมาชิก 4 คน ลองเอาสมาชิกออกสัก 1 ตัว ไปลองสู้กับบอสดูซิ หรือ อาจจะเป็น.. ลองเก็บเลเวลให้ถึง 99 ตั้งแต่ด่านแรกดูสิ ว่าจะทำได้ไหม หรือพบว่ายากไป เกมบอกต้องเล่นให้ผ่าน 3 ดาวเราก็ลองกำหนดให้ว่าได้ แค่ 1 ดาวก็พอก็ถือว่าสำเร็จแล้ว
บอสตัวนี้สู้ไม่ได้เราก็ไม่ต้องสู้หรือปรับเป็นโหมดเกมที่มันง่ายลงไม่ต้องฝืนเล่น พอทำอย่างนี้แล้วหลายคนพบว่าชีวิตการเล่นเกมมันสนุกขึ้นมากเลย เราไม่เห็นต้องทำตามเกณฑ์ที่ผู้พัฒนาเกมกำหนดให้ หรือไปแข่งกับผู้เล่นคนอื่นในเกมเพราะคู่แข่งของเราไม่ใช่ใครอื่นอีกแล้ว แต่เป็นตัวคุณเอง แต่เป็นกฎเกณฑ์ที่คุณกำหนดได้ด้วยตัวเอง
Personal challage เราจะเอามาใช้ในชีวิตจริงได้อย่างไร?
ผมไม่อาจบอกได้ว่าเราจะเอามันไปใช้ได้ในทุกสถานการณ์ หรือเอาไปแก้ไขปัญหาในชีวิตของเราได้ทั้งหมด แต่เมื่อคุณต้องเจอกับอุปสรรค เจอกับเป้าหมายที่คุณเองคิดว่าทำไม่ได้ หรือเป้าหมายที่คุณโดนยัดเยียดให้มา จงรู้ไว้ว่าคุณไม่จำเป็นต้องทำตามความคาดหวังที่ไม่เหมาะกับตัวคุณเองหรือตามกฎเกณฑ์ที่มันไม่สมเหตุสมผลเหล่านั้น
ผมขอยกตัวอย่าง คุณอยากจะวิ่ง พอไปที่สวนสาธารณะมีนักวิ่งเร็ว และวิ่งเป็นระยะทางหลายสิบกิโลเมตรเลย ในขณะที่เราพึ่งหัดวิ่ง คุณไม่จำเป็นต้องฝืนไปวิ่งตามความเร็ว ต้องวิ่งตามระยะทางเท่าคนอื่น ต่อให้คุณจะฝึกมาพอสมควร และ คุณอาจฝึกกับเพื่อน หรือคนอื่นๆ แล้วคุณพบว่าเพื่อนเหล่านั้นเขาไปวิ่งมาราธอนกันแล้ว โดยที่คุณยังวิ่งได้แค่มินิมาราธอน
หากคุณยังเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น คุณก็อาจจะไม่มีความสุข บางทีคุณอาจจะเริ่มฝึกวิ่งพร้อมกับคนอื่น แต่ทำไมเราวิ่งไม่ได้ระยะเท่ากับคนอื่น หรือวิ่งได้เร็วเท่ากับคนอื่น คุณอาจจะคิดด่าทอตัวเอง อาจจะน้อยใจตัวเอง ทั้งที่ฝึกฝนมาอย่างหนัก
แต่ถ้าคุณโฟกัสความเป้าหมายต่างๆไปยังแค่ตัวคุณเองล่ะ?
..คู่แข่งของคุณก็จะไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นตัวคุณเอง
คุณอาจจะวิ่งได้ช้า และไม่ได้ระยะทางที่เท่ากับคนอื่น แต่คุณก็สามารถตั้งเป้าหมายความสำเร็จ เป้าหมายการพัฒนาการวิ่งไป วันละนิดวันละหน่อย แต่ทำไปเรื่อยๆ ทีละเล็กทีละน้อย โดยใช้วิธีตั้งเป้าหมายที่คุณสามารถกำหนดได้เอง ในทุกๆวันที่คุณได้ออกวิ่งคุณจะมีความสุขที่คุณได้ทำตามเป้าหมายความสำเร็จที่เป็นไปตามกฎเกณฑ์ที่คุณสร้างขึ้นมาเอง
และเป็นเป้าหมายของความสำเร็จที่คุณไม่ต้องเทียบกับใคร คุณอาจจะพบว่าเมื่อก่อนคุณวิ่งระยะทาง แค่ 1 กิโลเมตรก็ยังไม่ไหวเลย ตอนนี้คุณวิ่งมินิมาราธอนได้แล้วนะ ทำไมเราเก่งอย่างนี้นะ
สุดท้ายนี้ ไม่ว่าเป้าหมายความสำเร็จของคุณเป็นอะไร คุณไม่จำเป็นต้องมีเหมือนกับใคร หรือจำเป็นต้องเดินตามใคร เป้าหมายความสำเร็จเหล่านั้นคุณสร้างมันด้วยตัวเองได้ ผมหวังว่าทุกคนที่ได้อ่านบทความนี้ได้ใช้ชีวิต
ใช้เวลาที่มีจำกัดไปตามเป้าหมายความสำเร็จที่คุณได้ตั้งขึ้นมาเอง ได้กำหนดไว้เอง ได้ใช้ชีวิตบนความสุข บนความสำราญใจ ให้คุณประสบความสำเร็จตามกฎเกณฑ์ที่คุณได้ตั้งเอาไว้เองครับ
ขอบคุณ คุณ เคียว แห่งช่อง ที่เขาได้แนวคิดนี้มาจาก คลิป Youtuber ชื่อดัง ในคลิปที่มีชื่อว่า “I t̶r̶i̶e̶d̶ ̶t̶o̶ beat Elden Ring Without Dying..”
แด่บิตคอยน์ที่มอบอำนาจอธิปไตยทางการเงินส่วนบุคคลให้แก่มนุษยชาติ..
Secretman DF
*** ขออนุญาตสร้างความชัดเจนตรงนี้ ผมไม่ได้บอกว่าให้ตั้งเป้าหมายที่มมันผิดกฎหมายนะครับ อันนี้หมายถึงเป้าหมายของความสำเร็จในชีวิต คนละเรื่องกัน กฎหมายนั้น คือ กฎของสังคมนั้นที่คุณต้องปฏิบัติตาม แต่บรรทัดฐาน หรือความคาดหวังในสังคมที่บางครั้งมันอาจดูไม่สมเหตุสมผล และคุณก็ไม่จำเป็นต้องไปทำตามครับ ***
One comment
ที่สุดเลยครับ ชอบการเขียนที่เปรียบเทียบกับสิ่งใกล้ตัว และทำให้มุ่งมุ่นกับตัวเองมากขึ้น ขอบคุณครับ