DLN
Picture of fastingfatdentist

fastingfatdentist

บิตคอยน์สามารถปรับปรุงระบบการดูแลสุขภาพสำหรับผู้ป่วยได้อย่างไร?

ทำไมหากผู้ให้บริการด้านการแพทย์นำบิตคอยน์มาใช้ ผู้ป่วยจะได้เห็นระบบตลาดเสรีและสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้ดียิ่งขึ้น? หาคำตอบได้ในบทความนี้ครับ

แปลและเรียบเรียงจากบทความต้นฉบับเรื่อง How Bitcoin Can Radically Improve The Healthcare System For Patients ของคุณ Robert Hall คอนเทนต์ครีเอเตอร์และเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก

ไม่มีอะไรสำคัญต่อการดูแลสุขภาพในระยะยาว มากไปกว่าการเข้าถึงการรักษาพยาบาลเมื่อถึงคราวจำเป็น แต่ทุกประเทศทั่วโลกใช้กระบวนการเหล่านี้แตกต่างกัน หลายประเทศนั้นงบประมาณด้านการรักษาพยาบาลถูกควบคุมโดยรัฐบาล ผ่านการกระจายงบจากส่วนกลางไปสู่การรักษาพยาบาลในตลาดเอกชน โดยมีการประกันสุขภาพที่รัฐบาลจัดทำขึ้นสำหรับผู้ยากไร้และผู้สูงอายุ

ในประเทศสหรัฐอเมริกา เรามีระบบการรักษาพยาบาลที่ดำเนินการโดยเอกชนเป็นหลัก ถ้าคุณมีเงิน คุณก็สามารถซื้อบริการด้านสุขภาพจากผู้ให้บริการรายใดก็ได้ที่คุณต้องการ แต่ปัญหาในอเมริกาไม่ใช่การขาดแคลนผู้ให้บริการด้านสุขภาพ แต่เป็นเรื่องวิธีการชำระค่าบริการต่างหาก

เมื่อคุณไปพบแพทย์ คุณไม่มีทางรู้เลยว่าจะต้องใช้เงินเท่าไหร่ในการเข้ารับบริการในแต่ละครั้ง แต่ถ้าคุณฉุกคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้สักนิด มันเป็นเรื่องที่ดูแปลกมาก คุณลองนึกถึงบริการอื่น ๆ สิ

มันมีด้วยเหรอที่คุณจะไม่ทราบว่าจะต้องจ่ายเงินเท่าไหร่ก่อนใช้บริการ?

นี่มันบ้าไปแล้ว อย่างน้อยการประเมินค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ ให้พอเห็นภาพ ก็ถือเป็นเรื่องปกติที่ควรทำไม่ใช่หรือครับ?

เมื่อคุณไปถึงสถานพยาบาล โดยปกติแล้วคุณจะต้องยื่นบัตรประกันสุขภาพและจ่ายเงินแบบ “Copay” แล้วคุณรู้เหรอว่าการจ่ายแบบ Copay หรือการจ่ายแบบ Coinsurance มันคืออะไรและทำงานอย่างไร? ไม่ค่อยมีใครคิดถึงเรื่องนี้กัน เพราะสิ่งที่คนส่วนใหญ่รู้ก็คือแค่ยื่นบัตรให้แคชเชียร์ แล้วมีการเสียค่าธรรมเนียมเล็กน้อย ก่อนจะเข้ารับบริการต่าง ๆ

(หมายเหตุผู้แปล : Copay คือการร่วมจ่ายเป็น % ที่คงที่ เช่น หากมีค่าใช้จ่าย 100 บาท บริษัทประกันจะคุ้มครองค่าใช้จ่าย 80% หรือ 80 บาท และผู้ถือกรมธรรม์จะต้องร่วมชำระค่าใช้จ่าย 20% หรือ 20 บาท เป็นต้น ในขณะที่ Coinsurance คือการประกันภัยร่วมที่ลูกค้า (หรือผู้เอาประกันภัย) มีการซื้อประกันภัยกับหลาย ๆ บริษัทเพื่อให้ได้ความคุ้มครองตามที่ต้องการ เนื่องจากการซื้อกับบริษัทเดียวไม่สามารถรับประกันความเสี่ยงไว้ได้ทั้งหมด)

นี่มันเพี้ยนขนาดไหน? เพราะไม่เพียงแต่คุณจะถูกเซอร์ไพรส์จากการเรียกเก็บเงินโดยที่คุณอาจไม่ได้เตรียมสำรองไว้ แต่ในส่วนของผู้ให้บริการทางการแพทย์เอง ก็ประสบปัญหาในการหาพนักงานที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเพื่อจัดการเรื่องการชำระเงิน นอกจากนี้รัฐบาลยังได้ผ่านร่างกฎหมาย “No Surprises Act” เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งทำให้การรับชำระเงินยุ่งยากยิ่งขึ้นสำหรับผู้ให้บริการทางการแพทย์

(หมายเหตุผู้แปล : No Surprises Act คือความร่วมมือระหว่างรัฐบาลกลางและรัฐเพื่อปกป้องผู้บริโภคจากค่ารักษาพยาบาลที่สูงเกินไป อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่)

ทำไมเราต้องให้บุคคลที่สามจ่ายค่ารักษาพยาบาลตั้งแต่แรก? ลองนึกภาพเราให้บริษัทประกันภัยรถยนต์จ่ายเงินเพื่อเติมน้ำมันรถเราให้เต็มถัง มันแปลกใช่มั้ยล่ะ?

รู้หรือไม่? ในปี 2021 มีชาวอเมริกัน 20% ที่มีหนี้จากค่ารักษาพยาบาล และ 58% ของบิลที่มีการเรียกเก็บทั้งหมดคือบิลหนี้ค่ารักษาพยาบาล

และอย่างที่คุณเห็น..ผู้คนกำลังดิ้นรนกับหนี้ที่เกิดจากค่ารักษาพยาบาล ซึ่งยังส่งผลกระทบต่อผู้ให้บริการด้านการรักษาพยาบาลอีกด้วย ผู้ให้บริการทางการแพทย์กำลังสูญเสียรายได้เมื่อผู้ป่วยไม่สามารถจ่ายเงินค่ารักษา ทำให้จำเป็นต้องขึ้นราคาเพื่อลดการสูญเสียตรงจุดนี้ คำถามคือแล้วผู้เข้ารับการรักษาสังเกตเห็นการเพิ่มขึ้นของราคาตรงนี้หรือไม่?

คำตอบคือ “ไม่” แต่บริษัทประกันสุขภาพคือผู้ที่มองเห็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในการให้บริการ

ราคาสินค้าและบริการด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้นนี้สะท้อนให้เห็นผ่านค่าประกันสุขภาพ ครอบครัวชาวอเมริกันทั่วไปใช้จ่าย 22,221 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 730,000 บาท) ในการประกันสุขภาพทุกปี ซึ่งเป็นเงินจำนวนมากทีเดียว ลองนึกภาพว่าคุณสามารถเอาเงิน 22,221 ดอลลาร์ในกระเป๋าของคุณไปทำอะไรได้บ้าง

สถานการณ์นี้กลายเป็นปัญหาน่าหนักใจเมื่อพิจารณาในมุมของรัฐบาลกลาง และจำนวนเงินมหาศาลที่ต้องจ่ายสำหรับการรักษาพยาบาล

เมดิแคร์ (Medicare หรือโปรแกรมประกันสุขภาพโดยรัฐบาลกลาง) ถูกประเมินว่าจะล้มละลายภายในปีพ.ศ. 2569 นั่นคืออีกเพียง 3 ปีนับจากนี้ แต่ยังไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้ในสื่อและไม่มีใครรณรงค์เรื่องนี้อย่างจริงจังในระหว่างการเลือกตั้ง ทั้ง ๆ ที่เมดิแคร์ให้ความคุ้มครองสุขภาพแก่ผู้สูงอายุและผู้พิการชาวอเมริกันถึงกว่า 63 ล้านคน

พวกเขาจะทำอย่างไรเมื่อรัฐบาลหมดเงินในการให้การคุ้มครองด้านการรักษาพยาบาลกับประชากรกลุ่มนี้? โดยในปีพ.ศ. 2564 นั้นค่าใช้จ่ายของเมดิแคร์เติบโตเฉลี่ย 7.6% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และจะไม่ชะลอตัวลงในเร็ว ๆ นี้อย่างแน่นอน นี่มันแทบไม่ต่างจากซากรถไฟที่เคลื่อนตัวช้า ๆ ท่ามกลางระบบการรักษาพยาบาลที่พังทลาย

ระบบที่เสียหายและจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง ก่อนที่มันจะระเบิดและจะพาทุกคนฉิบหายไปด้วยกันหมด เราจะเปลี่ยนระบบการรักษาพยาบาลตามหลักการตลาดเสรี ที่ช่วยผู้ให้บริการทางการแพทย์มีรายได้เพิ่มขึ้น แต่ผู้ป่วยมีค่าใช้จ่ายที่ถูกลงได้อย่างไร?

ใช้บิตคอยน์เพื่อช่วยกู้วิกฤตนี้

ลองนึกภาพถึงโลกที่คุณรู้ว่าต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลเท่าไหร่ก่อนที่จะเข้ารับบริการ ลองนึกภาพถึงโลกที่คุณสามารถเปรียบเทียบราคาค่ารักษาของแต่ละโรงพยาบาล ด้วยวิธีที่ไม่ต่างจากการไปซื้อของที่ร้านขายของชำหรือร้านค้าในแอมะซอน (Amazon)

บิตคอยน์ทำให้โลกแบบนี้เป็นไปได้ เพราะหากโลกเราใช้การเงินระบบมาตรฐานบิตคอยน์ (The Bitcoin Standard) ผู้บริโภคทั่วไปสามารถใช้เงินได้คุ้มค่ามากขึ้นในการรักษาพยาบาล การเป็นเงินสร้างยากของบิตคอยน์อาจทำให้สิ่งเหล่านี้เป็นไปได้

ด้วยความที่บิตคอยน์มีเพียง 21 ล้านเหรียญเท่านั้นที่จะถูกผลิตขึ้น ยิ่งถือครองไว้นานมูลค่าของมันก็ยิ่งเพิ่มขึ้น และยิ่งมีมูลค่ามากเท่าใดก็ยิ่งสามารถใช้ซื้อบริการด้านสุขภาพได้มากขึ้นเท่านั้น

มูลค่าที่เพิ่มขึ้นจะดึงดูดผู้ให้บริการทางการแพทย์ให้เข้าสู่ตลาดและสามารถเสนอบริการด้วยบิตคอยน์มากขึ้น การแข่งขันที่สูงขึ้นระหว่างผู้ให้บริการด้านสุขภาพหมายถึงการเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้มากขึ้น การบริการลูกค้าที่ดีขึ้น และราคาที่ถูกลงสำหรับทุกคน คุณเห็นไหมว่าทั้งหมดนี้มันส่งผลดีอย่างไร

ผู้ให้บริการทางการแพทย์จะได้รับแรงจูงใจให้ตั้งราคาเป็นบิตคอยน์ เพื่อดึงดูดผู้ป่วยรายใหม่ ๆ ให้อยากเข้ารับการรักษา

โดยปกติการประกันสุขภาพมีค่าใช้จ่ายที่บริษัทประกันต้องแบกรับจำนวนมาก โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายจากการเข้ารับบริการทั่วไปของลูกค้า (เช่น การยื่นเอกสารหลักฐานต่าง ๆ) จะหายไปและไม่มีความจำเป็นในระบบมาตรฐานบิตคอยน์ เนื่องจากผู้บริโภคจะมีกำลังซื้อเพียงพอที่จะชำระค่าใช้จ่ายในขณะเข้าใช้บริการ

ไลท์นิ่งเน็ตเวิร์ก (Lightning Network) : ประโยชน์ต่อผู้ให้บริการด้านสุขภาพ

การบริหารสถานพยาบาลเป็นธุรกิจ ย่อมมีค่าใช้จ่ายเพื่อให้ธุรกิจไปต่อได้ ต้องชำระค่าเช่า ต้องชำระค่าจ้างพนักงาน และต้องซื้อวัสดุสิ้นเปลือง

การปฏิบัติทางการแพทย์สามารถใช้ไลท์นิ่งเน็ตเวิร์ก (Bitcoin Lightning Network) เพื่อรับเงินได้ทันทีจากผู้ป่วย และลดความสับสนเกี่ยวกับการเรียกเก็บเงินค่ารักษาพยาบาลได้ การชำระเงินแบบไลท์นิ่งจะช่วยเพิ่มรายได้และเสริมสภาพคล่องกระแสเงินสดได้

กระแสเงินสดนี้สามารถนำไปใช้ลงทุนในธุรกิจ ซื้ออุปกรณ์ที่ดีขึ้น และจ้างพนักงานเพิ่มขึ้น สิ่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์ต่อบริษัทเท่านั้น แต่อุปกรณ์ที่ดีขึ้นยังนำไปสู่ผลลัพธ์ด้านการดูแลสุขภาพที่ดีขึ้น และการมีทีมบุคลากรมากขึ้นก็จะนำไปสู่การบริการลูกค้าที่ดีขึ้น ซึ่งการบริการลูกค้าที่มีคุณภาพสูงจะเพิ่มผลกำไรในระยะยาว

จากการศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้ ผู้ให้บริการด้านสุขภาพที่ให้บริการลูกค้าในระดับ “ยอดเยี่ยม” มีรายงานพบว่ามีอัตรากำไรสุทธิสูงกว่าผู้ให้บริการที่บริการลูกค้าในระดับ “กลาง ๆ” ตามมาตรฐานทั่วไปถึง 50%

นอกจากนี้ไลท์นิ่งเน็ตเวิร์กยังช่วยลดต้นทุนการทำธุรกรรมเกี่ยวกับการปฏิบัติทางการแพทย์ ขั้นตอนการรับชำระเงินถือเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญที่สุดของผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพ แต่ตัวมันเองกลับเป็นขั้นตอนที่มีประโยชน์น้อยมาก การรับชำระเงินโดยเฉลี่ยจะถูกเก็บค่าธรรมเนียมระหว่าง 1.5 ถึง 3.5% นอกจากนี้ผู้ให้บริการระบบชำระเงินมักจะสร้างวิธีคิดเงินที่ซับซ้อน เพื่อเรียกเก็บเงินเพิ่มจากบริษัทต่าง ๆ ที่ใช้บริการ

ผู้ให้บริการด้านสุขภาพสามารถประหยัดเงินค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมได้ หากเปลี่ยนมาใช้ไลท์นิ่งเน็ตเวิร์ก ค่าธรรมเนียมเฉลี่ยสำหรับการชำระเงินผ่านไลท์นิ่งคือ 0.01%!

แถมยังมีโหนดไลท์นิ่งอีกจำนวนมากที่ไม่คิดค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม นี่คือสิ่งที่ตัวกลางผู้ให้บริการการชำระเงินแบบดั้งเดิมไม่สามารถแข่งขันได้

ผู้ให้บริการด้านการแพทย์ควรเปลี่ยนไปใช้ระบบมาตรฐานบิตคอยน์ และใช้ไลท์นิ่งเน็ตเวิร์กโดยเร็วที่สุด และเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจของพวกเขา เนื่องจากมันจะดีสำหรับพวกเขาและผู้เข้ารับการรักษา รวมถึงระบบเศรษฐกิจโดยรวมอีกด้วย

หมายเหตุ : นี่คือบทความที่เขียนโดย Robert Hall มุมมองที่นำเสนอเป็นความคิดเห็นของผู้เขียนทั้งหมด และไม่จำเป็นต้องมีความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกับ BTC Inc หรือ Bitcoin Magazine

สำหรับท่านใดที่สนใจเนื้อหาการดูแลสุขภาพในแบบ วิถี IFF วิถีแห่งธรรมชาติตามหลักวิทยาศาสตร์ (ไม่ Fiat) สามารถติดตามได้สองช่องทางหลัก คือ ทาง FB Page “หมออ้วนในดงลดน้ำหนัก” 

และทาง youtube Channel “ Fastingfatdentist”

หรือช่องทางรวมที่ https://linktr.ee/fastingfatdentist

fastingfatdentist

** ทุกบาทหรือทุกซาโตชิที่ donate จะถูกส่งเข้ากระเป๋าของผู้เขียนโดยตรงครับ :) **

Share this post

Leave a Reply

Connect with

Your email address will not be published. Required fields are marked *


Related Posts

Fiat
fastingfatdentist

Behind FIAT Curtain Ep.0 : Fiat อยู่รอบตัวเรา

“วิธีที่ดีที่สุดในการไม่ให้นักโทษหนี คือ ทำให้นักโทษ แน่ใจว่า เขาไม่ได้อยู่ในคุก”
“The best way to keep a prisoner from escaping is to make sure he never knows he is in a prison.”
Fyodor Dostoyevsky

Read More »