บิตคอยน์ (Bitcoin) เกี่ยวอะไรกับคราฟต์เบียร์
ช่วงตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา เรามักจะเห็นบิตคอยน์ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้เรียกร้องมากขึ้น โดยมี 2 เหตุการณ์ใหญ่ ๆ คือ การประท้วงรัฐบาลในชาติตะวันตก (โดยเฉพาะในประเทศแคนาดา) และสงครามระหว่างประเทศยูเครนกับประเทศรัสเซีย โดยบิตคอยน์นั้นไม่ได้เป็นเพียงสัญลักษณ์ของการต่อสู้เท่านั้น แต่มันยังถูกใช้งานจริงท่ามกลางความวุ่นวาย และไม่มีใครหน้าไหนจะสามารถมายับยั้งมันได้
1. ทำไมต้อง บิตคอยน์
การที่จะตอบคำถามนี้ได้ เราจำเป็นต้องทราบถึงปัญหาที่ทำให้บิตคอยน์เกิดขึ้นมาเสียก่อน สิ่งหนึ่งที่มนุษย์ถูกพรากออกไปมากขึ้นทุกวันคือ “อิสรภาพ” และนับตั้งแต่ช่วงหลังจากปี 1930 เป็นต้นมา อิสรภาพของเราค่อย ๆ เลือนหายไปและลู่เข้าสู่มือของผู้มีอำนาจมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยไม่สนว่าคุณจะอยู่ในประเทศไหนก็ตาม นั่นจึงเป็นปัญหา เพราะเมื่อใดที่คุณมีเรื่องบาดหมางกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ คุณจะถูกยึดเงินหรือถูกอายัดบัญชี (Freeze Account) ได้อย่างง่ายดาย และจุดนี้นี่เองที่ทำให้เรากลายเป็น “ทาส” โดยที่ไม่ต้องใส่โซ่ตรวน เพราะเงินที่ถูกควบคุมได้ มันคือสิ่งที่หล่อเลี้ยงให้คุณเชื่องราวกับสุนัขในกรง
บิตคอยน์เกิดขึ้นในปี 2009 เพื่อแก้ปัญหาความเป็นกลางของเงิน เพราะแท้จริงแล้ว “เงิน” ไม่ควรถูกใช้เป็นเครื่องมือในการทำลายล้างผู้ใด แต่ทุกวันนี้เจ้าหน้าที่ของรัฐกลับใช้เงินเป็นเครื่องมือในการสะกดผู้อื่นให้ยอมจำนน และสยบยอมภายใต้เงื้อมมือของเจ้าหน้าที่รัฐ มันทำให้คุณเป็นได้แค่ลูกไก่ในกำมือ
แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เมื่อเราเข้าใจจุดประสงค์และอุดมการณ์ของบิตคอยน์
2. บิตคอยน์ คืออะไร
บิตคอยน์คือเงินที่เทพมาก! มันคือเงินที่คุณเป็นเจ้าของได้อย่างแท้จริง เงินที่ไม่มีใครหน้าไหนมาพรากไปจากคุณได้ บิตคอยน์คือระบบการเงินที่ไร้ศูนย์กลาง ไร้สถาบันใด ๆ ควบคุม เป็นเงินที่ประชาชนมากมายทั่วโลกร่วมกันช่วยให้ระบบมันทำงานได้ การใช้งานบิตคอยน์ไม่ต้องขออนุญาตใคร ไม่ต้องสมัครหรือเปิดบัญชีใช้งาน (ไม่ได้หมายถึงกระดานเทรดซื้อ-ขายบิตคอยน์นะ) ไม่มีขอบเขต ไม่มีพรมแดน ไม่มีใครเป็นใหญ่ในระบบ และไม่ต้องเชื่อใจใครทั้งนั้น
เมื่อคุณมีเงินที่มีอิสรภาพเช่นนี้ คุณก็พร้อมแล้วที่จะต่อกรกับบรรดาข้ารับใช้ของรัฐบาลทรราช ที่สร้างกฎเกณฑ์ที่ไม่เป็นธรรมกับประชาชน
3. ทำไมคราฟต์เบียร์ในประเทศไทยจึงมีปัญหา?
คำถามนี้ตอบสั้น ๆ ได้ง่ายมาก “เพราะคุณไปขัดผลประโยชน์ของชนชั้นบน” ใช่ครับ.. มัน “Sad but True” เพราะยอดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในประเทศไทยมีมูลค่าสูงถึง 200,000 ล้านบาทต่อปี ไม่น้อยเลยใช่มั้ยล่ะครับ? และที่สำคัญคือในยอดสองแสนล้านบาทนี้กลับถูกหารแบ่งกันแค่ในกลุ่มทุนที่ผูกขาดเท่านั้น แล้วยังไม่พอเงินส่วนนี้ได้กลายไปเป็น “เงินพิเศษ” ของบรรดาเหล่าข้ารับใช้ในระบบอีกด้วย
คุณลองคิดดูนะ.. สมมติคุณเป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่รับเงินเดือน 18,000 บาท ถ้าคุณอนุญาตให้ประชาชนทั่วไปผลิตคราฟต์เบียร์ขายได้ คุณก็จะได้เงินเดือน 18,000 บาทเท่าเดิม แต่ถ้าคุณปิดกั้นรายเล็กและทำเพื่อรายใหญ่ คุณจะได้เงินเดือน 18,000 บาท พร้อมโอกาสได้เงินพิเศษอีกเดือนละหลายพันหลายหมื่นบาท ทีนี้คุณเข้าใจรึยังว่าคุณควรทำเพื่อใคร!
สิ่งที่เหล่าบรรดาข้ารับใช้ในระบบทำนั้น มันไม่ได้ผิดที่ตัวบุคคล แต่ผิดที่ระบบ เพราะระบบมันถูกออกแบบมาให้เงินเดือนข้าราชการชั้นผู้น้อยไม่พอยาไส้ ไหนจะครอบครัว ลูก เมีย ค่าผ่อนคอนโดฯ ผ่อนรถ ไหนจะต้องดูแลพ่อแม่อีก มันจึงเกิดเป็นช่องโหว่ให้บริษัทยักษ์ใหญ่สามารถโจมตีระบบได้ ส่งผลให้เกิดการผูกขาดในแทบจะทุกอุตสาหกรรม
ฉะนั้นถ้าเราจะแก้ปัญหา อย่าเสียเวลาไปสู้ด้านกฎหมาย เราจงโฟกัสไปที่ต้นตอของปัญหา แล้วทำการรื้อระบบหลังบ้านทิ้งให้หมด เผาเชื้อมะเร็งร้ายให้ตายซาก แล้วรื้อฟื้นแบบ “Set Zero” กันใหม่อีกครั้ง
4. ความเหมือนที่แตกต่างของ บิตคอยน์ กับ คราฟต์เบียร์
บิตคอยน์ กับ คราฟต์เบียร์ คือเรื่องเดียวกัน เป็นเรื่องราวของความ “Decentralization” เป็นเรื่องของการเอาอำนาจออกจากศูนย์กลาง เอาอำนาจออกจากมือรัฐบาลทรราช กระจายอำนาจกลับสู่สังคม เน้นให้ทุกคนพึ่งพาตนเอง เพราะถ้าประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองด้านความเมาได้เมื่อไร ประเทศของเราจะเปลี่ยนทันที
เพราะการทำเบียร์ไม่ต่างจากการทำกับข้าว หากคุณสามารถทำผัดกะเพราได้ฉันใด ก็ควรจะทำเบียร์ได้ฉันนั้น เพราะมันคือของกิน เพียงแต่เราถูกกฎหมายที่เป็นเหมือนกำแพงสูงปิดกั้นเอาไว้ คนธรรมดาข้ามผ่านไม่ได้ แต่บริษัทยักษ์ใหญ่กลับก้าวข้ามได้สบาย ๆ ประชาชนไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้ ประเทศชาติไม่ได้มีอาชีพใหม่ ๆ หันมองไปทางไหนก็มีแต่ร้านค้าร้านขายที่ดูซ้ำ ๆ ซาก ๆ ธุรกิจในตลาดหุ้น 100% เป็นธุรกิจแบบเก่า ไม่ขายสินค้าก็ขายบริการซ้ำ ๆ กัน
มันดูจำเจเหลือเกิน ผู้คนไม่มีความคิดสร้างสรรค์อะไรใหม่ ๆ อะไรกันเลยหรือ? หรือว่าผู้คนเหล่านั้นมีความคิดสร้างสรรค์ที่ยอดเยี่ยม แต่ติดอยู่ตรงระบบที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเกิดขึ้นของไอเดียใหม่ ๆ เราจำเป็นต้องเผาระบบเก่านี้ทิ้งให้สิ้นซาก แล้วปลดปล่อยพลังแห่งไอเดียออกมาโลดแล่น
5. บิตคอยน์ และการกดขี่ของชนชั้น
หากคุณติดตามเพจประชาชนเบียร์ คุณจะเห็นว่าบ่อยครั้งที่มีประชาชนคนธรรมดาโดนหมายเรียกเปรียบเทียบปรับ เพียงเพราะโพสต์ลงเฟซบุ๊กว่าเบียร์รสชาติเป็นอย่างไร แต่ในทางกลับกันคุณจะเห็นอีกหลายสถานที่ที่มีการโฆษณามากมาย ทั้งน้ำแร่ น้ำโซดา หรือของแถมต่าง ๆ ที่เห็นแล้วก็ชวนให้นึกถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากกว่าสินค้าที่แสดงอยู่
คุณอาจจะมีคำถามเกิดขึ้นในหัวถึงความผิดปกติวิสัยเหล่านี้ และถึงแม้บริษัทยักษ์ใหญ่จะโดนจับปรับเหมือนกันกับรายเล็กหรือคนธรรมดา แต่พวกเขาก็มีเงินมากพอที่จะสามารถจ่ายค่าปรับได้อย่างสบาย ๆ แบบขนหน้าแข้งยังไม่กระดิก
นี่คือการกดขี่ที่มีต่อร้านคราฟต์เบียร์รายเล็กและประชาชนทั้งประเทศ เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีการก่อตั้งสมาคมเฝ้าระวังธุรกิจแอลกอฮอล์และ “อักษรย่อสามตัว” ขึ้นมาเพื่อสนับสนุนการผูกขาดเข้าไปใหญ่
คุณเห็นไหมว่าแรงลมต้านมันมากเพียงใด? ถ้าคุณจะต่อกรกับระบบ คุณไม่สามารถใช้เงินของระบบนี้ได้ คุณไม่มีทางที่จะปฏิวัติผ่านเงินกระดาษที่ผลิตโดยรัฐบาล หนทางต่อสู้ต้องเป็นบิตคอยน์เท่านั้น
6. บิตคอยน์และการต่อสู้ของคนชั้นล่าง
BeerZpot ถูกก่อตั้งขึ้นมาด้วยแนวคิดเดียวกันกับบิตคอยน์ นั่นก็คือการ “Decentralization” และการกระจายรายได้สู่สังคม เราตั้งศูนย์กระจายสินค้าไว้ 4 จุดทั่วกรุงเทพฯ ได้แก่ ศูนย์บางนา ศูนย์ดอนเมือง ศูนย์สายไหม และศูนย์ตลิ่งชัน เราทำระบบตัดตัวกลางในการขนส่ง เราวางระบบเว็บไซต์ให้ไม่สามารถโดนแบนได้ เพราะเราวาง “Edge Server” ไว้ในหลาย ๆ ประเทศ เรารับเบียร์จาก “นักต้มเบียร์” หรือ “Brewer” ทั่วประเทศไทยมาวางจำหน่าย ซึ่งต้องเป็นเบียร์อิสระเท่านั้น
และต่อให้เจ้าของ BeerZpot หายไปในวันนี้ ระบบก็ยังทำงานต่อไปได้อย่างไม่มีสะดุด เท่านั้นยังไม่พอเรายังมีระบบสำรองที่เรียกว่า “Marketplace” หรือ “ตลาดนัดคราฟต์เบียร์” ที่เปิดโอกาสให้ Brewer ลงขายเบียร์ด้วยตนเองได้อีกต่างหาก
เรียกได้ว่าผมพร้อมเสี่ยงเพื่อพวกคุณทุกคนแล้ว!
เพราะบิตคอยน์มันได้ “Empower” และมอบพลังอำนาจให้กับผู้คน มันให้อำนาจทางจิตใจกับผม หากวันนึงผมโชคร้ายโดนจับติดคุก ก็ยังมีวันได้ออกมา เพราะพวกเราแค่ทำคราฟต์เบียร์ เราแค่ทำอาหาร เราไม่ได้คร่าชีวิตใคร เราไม่ได้เบียดเบียนใคร และถึงแม้จะโชคไม่ดีโดนจับเข้าตารางจริง ๆ ก็คงไม่นานเกินไป เพราะในวันที่ผมก้าวขาออกมา.. เงินที่โคตรจะทรงพลังนี้ก็จะยังเป็นของผมอยู่วันยังค่ำ
7. ก้าวเข้าสู่ระบบมาตรฐานบิตคอยน์ (The Bitcoin Standard)
การมาของบิตคอยน์ในปี 2009 คือจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายของการปฏิวัติเพื่อโค่นล้มอำนาจที่ไม่เป็นธรรม บิตคอยน์เป็นสิ่งเดียวและเป็นความหวังของมวลมนุษยชาติที่จะทำให้อำนาจที่อยู่ในมือของรัฐบาลทรราชกลับมาสู่มือประชาชนอีกครั้ง จากนี้ไปรัฐจะค่อย ๆ เสื่อมอำนาจลงเรื่อย ๆ เพราะไม่สามารถเก็บภาษีได้แม้แต่บาทเดียวสำหรับผู้ที่งานใช้บิตคอยน์
เงินที่รัฐใช้เลี้ยงดูเหล่าบรรดาข้ารับใช้จะค่อย ๆ หดหายไป รัฐจะต้องค่อย ๆ ลดขนาดของตัวเองลง จำนวนข้ารับใช้ในระบบจะค่อย ๆ ลดลง จนถึงจุดนึงระบบนี้จะพังไปทั้งหมด
ถัดไปก็เป็นโจทย์ของกลุ่มทุนผูกขาดแล้วล่ะว่าจะขยับตัวอย่างไร
การที่เราจะพังทลายอำนาจผูกขาดในตลาดได้..มันไม่ง่าย เพราะอำนาจนั้นถูกหล่อหลอมมาเป็นระยะเวลาอันยาวนาน แถมยังมีคนในระบบคอยช่วยเหลือ เรียกว่าทุนผูกขาดนั้นหยั่งรากลึกลงไปในระดับแกนกลางของระบบการเมืองและกฏหมาย
หากเราจะทำลายทุนผูกขาด เราจำเป็นต้องถอนรากถอนโคน เราต้องรื้อระบบอันเน่าเฟะนี้ออกไป และสิ่งที่จะส่งเสริมให้เราทำแบบนั้นได้ เราต้องมีระบบการเงินที่ยอดเยี่ยมอย่างบิตคอยน์
8. ปลดปล่อยประเทศชาติ ทำลายกำแพงปีศาจ
ตัวผมเอง เหล่าบรรดา Brewer มิตรสหายสายดื่ม และประชาชนผู้รักอิสระทั้งหลาย พร้อมแล้วที่จะต่อสู้ไปด้วยกัน ดูเหมือนว่าเราจะมีเครื่องมือในการต่อกรกับพวกมันครบแล้ว ประกอบด้วย :
- ระบบ BeerZpot
- Brewer หรือนักทำเบียร์อิสระ
- บิตคอยน์ หรือระบบการเงินที่ทรงพลัง
เพียงเท่านี้เราก็พร้อมที่จะยืนหยัดสู้กับรัฐบาลทรราชและบริษัทผูกขาด แต่การเปลี่ยนแปลงใด ๆ ย่อมต้องใช้เวลา ขอเพียงทุกท่านใจเย็น ๆ แล้วร่วมเดินทางไปด้วยกันอย่างช้า ๆ ทำงานประจำของคุณไป สนับสนุนวงการคราฟต์เบียร์เท่าที่ทำได้ พัฒนาสุนทรียะทางการดื่มของตนเองไปเรื่อย ๆ กระจายความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับบิตคอยน์ให้ผู้คนได้รับรู้ ว่ามันไม่ใช่เพียงแค่การเก็งกำไร ว่ามันไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้คุณรวยเร็วในชั่วข้ามคืน หากแต่มันคือระบบการเงินที่จำเป็นมากในการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างทางการเมืองของชาติ
หากคุณอยากสนับสนุนการต่อสู้ของพวกเราก็สามารถทำได้ 2 วิธี คือ :
- อุดหนุนเบียร์ของ Brewer อิสระผ่าน www.beerzpot.com
- บริจาคบิตคอยน์ให้พวกเราใช้เป็นทุนในการต่อสู้ด้านกฎหมาย ผ่านวอลเล็ทบิตคอยน์ด้านล่างนี้
3EVWRZWB2Af7i61dfybovKYrg8JZwW2JcH
9. อิสรภาพของคุณราคาเท่าไร?
ปลายทางของผมคือการได้ใช้ชีวิตที่ตั้งอยู่บนตลาดเสรีและเป็นธรรม บิตคอยน์จะปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ บิตคอยน์ทำให้เกิดความอิสระในระดับจิตใจ ผมอยากเห็นหนุ่มสาวชาวไทยลุกขึ้นมาทำเบียร์ขาย ส่งออก สร้างนวัตกรรม สร้างงาน สร้างรายได้ สร้างอาชีพ และพัฒนาท้องถิ่น
แล้วจากเรื่องของคราฟต์เบียร์ก็อาจจะพัฒนาไปสู่สิ่งอื่น ๆ ได้ไม่ยาก หากเรามีโมเดลที่ประสบความสำเร็จแล้ว
ผมอยากเห็นผู้คนสะสมความมั่งคั่งผ่านสิ่งที่เรียกว่า “Sound Money” หรือ “เงินที่มั่นคง” เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วมันจึงจะเกิดความพอเพียงที่ขับเคลื่อนออกมาเองจากภายในจิตใจ ไม่ใช่พอเพียงแต่เปลือกเพราะถูกบีบบังคับจากความยากจน ซึ่งกว่าที่ผมจะเห็นสิ่งเหล่านี้ได้ ผมอาจจะต้องเสี่ยงกับกฏหมายที่ไม่เป็นธรรมไปพร้อม ๆ กับต้องอดทนนั่งดูการล่มสลายของรัฐบาลทรราช นี่คือราคาที่ผมต้องจ่ายเพื่อแลกกับอิสรภาพของผู้คนและอนาคตของประเทศที่ผมอาศัย
แล้วคุณล่ะครับ พร้อมจะจ่ายเท่าไหร่เพื่ออิสรภาพของตัวคุณเอง?
“Fix The Money, Fix The World”
บทความนี้เป็นความคิดเห็นของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว และไม่จำเป็นต้องมีความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกับ Right Shift แต่อย่างใด