SM
SecretmanDF

SecretmanDF

7 สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณเป็นผู้ใช้งานยุคแรกหากคุณซื้อบิตคอยน์ในวันนี้

เมื่อการปฏิวัติทางเทคโนโลยีได้กำเนิดขึ้น และเตรียมพร้อมที่จะกระจายไปสู่ผู้ใช้งานทั่วโลก เป็นการดีที่สุดหากได้เป็นกลุ่มผู้ใช้งานยุคเริ่มแรก กลุ่มผู้ใช้งานเหล่านั้นจะรับเอาเทคโนโลยีนี้มาใช้ก่อนใคร และในที่สุดพวกเขาก็จะได้รับข้อได้เปรียบอันเยี่ยมยอดบางอย่าง ที่กลุ่มคนอื่นบนโลกไม่มีโอกาสได้รับ

ลองคิดดู.. หากว่าคุณรู้เป็นอย่างดี ถึงศักยภาพอันน่าทึ่งของอินเทอร์เน็ตในช่วงปลายยุค 90 คุณก็สามารถที่จะทุ่มเงินลงทุนมหาศาลไป เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทเว็บไซต์ยักษ์ใหญ่อย่าง แอมะซอน (Amazon) หรือ กูเกิล (Google)

ลองนึกภาพดูว่า.. หากคุณเข้าใจก่อนคนอื่นว่าเครือข่ายสังคมออนไลน์จะกลายเป็นสิ่งสำคัญของชีวิตคนส่วนใหญ่ในโลกช่วงกลางยุค 2000 คุณคงจะทุ่มเงินลงทุนไปใน เฟซบุ๊ค (Facebook)

ลองจินตนาการดูว่า.. ถ้าคุณเข้าใจก่อนคนอื่นว่าการรับชม ผ่านการสตรีมมิ่ง (streaming) กำลังจะเป็นรูปแบบที่คนนิยมเพื่อใช้รับชมคอนเทนต์ต่างๆ คุณคงจะลงทุนใน เน็ตฟิก (Netflix) ในช่วงต้นยุค 2010 ไปแล้ว

ผมจะยกตัวอย่างเพียงเท่านี้ แต่คุณคงจะพอเข้าใจแนวคิดเหล่านี้บ้างแล้ว การที่คุณเข้าใจในเทคโนโลยีที่พึ่งมาใหม่ก่อนใคร

เทคโนโลยีที่กำลังจะมาปฏิวัติโลกแห่งอนาคต และที่สำคัญกว่านั้นคือการเข้าไปลงทุนในสิ่งนั้น มันสามารถจะเปลี่ยนชีวิตคุณได้เลย

กับ บิตคอยน์ คุณกำลังเห็นบางอย่าง ที่พอจะเปรียบเทียบกับสิ่งที่ผมกล่าวไปแล้วได้ แต่มันยิ่งใหญ่กว่านั้นเป็นร้อยเท่า 

เพราะบิตคอยน์ไม่ได้เป็นเพียงอีกรูปแบบหนึ่งของการปฏิวัติทางเทคโนโลยีเท่านั้น บิตคอยน์ เป็นการปฏิวัติทางการเงินอันน่าทึ่ง ที่มอบโอกาสให้คุณได้อำนาจอธิปไตยทางการเงินคืนกลับมาอยู่ในมือ 

บิตคอยน์เป็นทางเลือก เพื่อออกจากสกุลเงินและระบบเงินที่เราใช้อยู่ในปัจจุบัน และนั่นคือเรื่องราวทั้งหมด

แต่ถึงกระนั้น คนส่วนใหญ่ในโลกก็ยังไม่ตระหนักถึงประโยชน์อันน่าเหลือเชื่อของระบบบิตคอยน์ 

ถ้าในวันนี้คุณพยายามจะทำความเข้าใจว่าทำไมคุณต้องใช้งานบิตคอยน์ และตัดสินด้วยตัวคุณเองว่าจะลงมือทำอะไรบางอย่าง ซึ่งหลังจากนั้นคุณก็จะกลายเป็นผู้เริ่มใช้งานในยุคแรก แล้วจะได้รับผลตอบแทนทั้งหมดที่บิตคอยน์จะมอบให้คุณในอนาคต

ผมเห็นสัญญาณสำคัญ 7 ประการ ที่จะมาสนับสนุนข้อสรุปของผม และผมจะขออธิบายให้คุณฟัง ดังต่อไปนี้

1. คนบนโลกนี้มีตั้ง 7.8 พันล้านคน แต่มีผู้ใช้งาน บิตคอยน์ เพียง 130 ล้านคนเท่านั้น

อ้างอิงจากการประมาณการล่าสุดขององค์การสหประชาชาติ ในขณะที่ผมกำลังเขียนบทความนี้ ประชากรบนโลกมีจำนวนมากกว่า 7.8 พันล้านคน 

เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับจำนวนผู้ใช้งานเครือข่ายบิตคอยน์ที่มีเพียงประมาณ 130 ล้านกว่าคนเท่านั้น นั่นหมายความว่าอย่างมากที่สุด จะมีเพียงประชากรโลก 1.6% เท่านั้นที่กำลังเป็นเจ้าของบิตคอยน์

แล้วในจำนวน 130 ล้านคนที่ว่านี้ จะมีสักกี่คนที่เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า ทำไมเราจำเป็นต้องใช้งานบิตคอยน์ และถือครองบิตคอยน์อย่างเต็มใจไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น 

จำนวนของคนเหล่านี้อาจจะน้อยกว่านี้ เกินกว่าที่คุณจะมั่นใจได้ด้วยซ้ำว่ามันมีจำนวนเท่าไรกันแน่!

นั่นหมายความว่า หากคุณซื้อบิตคอยน์ในวันนี้ และพยายามทำความเข้าใจว่าทำไมคุณถึงจำเป็นต้องการใช้งานมัน หลังจากนั้นคุณก็จะอยู่ในกลุ่มคน 1% ที่เข้ามาใช้งานบิตคอยน์เป็นพวกแรก

นอกจากนั้นเมื่อคุณมั่นใจในบิตคอยน์มากเพียงพอ คุณจะสามารถอดทนรอ เพื่อในอนาคตคุณจะสามารถใช้ประโยชน์จากบิตคอยน์ได้อย่างเต็มที่

แม้ว่าประชากรโลกในอนาคตจะมีจำนวนเพิ่มขึ้น แต่บิตคอยน์ที่สามารถผลิตได้ไม่มีทางจะมีจำนวนเกิน 21 ล้านหน่วยได้

ลองนึกดูว่ามันจะส่งผลกระทบอย่างไรกับราคาบิตคอยน์ในอนาคตข้างหน้าที่กำลังจะมาถึง?

2. ลองถามคำถามหลายๆคนดูว่า มีกี่คนที่บอกได้ว่า “บิตคอยน์ คืออะไร ?”

วิธีที่ดีอย่างหนึ่งที่ใช้ทดสอบว่า ดิสรัปทีฟเทคโนโลยี (disruptive technology) ได้เข้าถึงคนหมู่มากในสังคมแล้วหรือยัง นั่นคือการที่คุณออกไปถามคนทั่วไปรอบตัวคุณ ว่าพวกเค้ามีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับบิตคอยน์ หรือลองถามเล่นๆ กับคนที่คุณบังเอิญได้เจอว่า “บิตคอยน์ คืออะไร ?” 

แล้วคุณจะแปลกใจว่ามีไม่ถึง 1 ใน 10 ที่สามารถตอบคำถามนี้ได้ คนส่วนใหญ่จะพูดเกี่ยวกับบิตคอยน์ในแง่ลบ ซึ่งเป็นเพียงข้อคิดเห็น ที่พวกเขาได้ถูกผู้ที่ควบคุมการผลิตเงิน และระบบการเงินปัจจุบันที่ยังเรืองอำนาจอยู่ พูดกรอกหูพวกเขาซ้ำไปซ้ำมา

ถ้ามีบางคนบอกกับคุณว่าบิตคอยน์ให้อำนาจในการควบคุม และความเป็นเจ้าของเงินอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงแค่เป็นแค่เงินทั่วๆ ไป 

นั่นคือคุณโชคดีมากๆ เลยนะ ที่ได้เจอกับผู้ใช้งานกลุ่มแรกเหมือนกับคุณ!

หมายเหตุผู้แปล ดิสรัปทีฟเทคโนโลยี (Disruptive technologies) คือ นวัตกรรม หรือเทคโนโลยีที่สร้างตลาด และมูลค่าให้กับตัวผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยี และสิ่งที่สำคัญ คือมันจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรง ต่อตลาดของผลิตภัณฑ์เดิม

3. พ่อค้าส่วนใหญ่ยังไม่รองรับการชำระเงินด้วย บิตคอยน์

เมื่อพ่อค้าที่ขายของหน้าร้าน และพ่อค้าขายของผ่านช่องทางออนไลน์รองรับการชำระเงินด้วย บิตคอยน์ คุณจะรู้ได้ว่ามันสายไปแล้วสำหรับการจะเป็นผู้ใช้งานกลุ่มแรก ระวังไว้นะ.. 

เพราะว่ามันอาจจะเกิดขึ้นเร็วกว่าที่หลายคนคาดไว้

บิตคอยน์ เป็นเงินจากบุคคลถึงบุคคลที่ถูกเข้ารหัส ซึ่งเป็นหัวใจของระบบการชำระเงินทางเลือกที่สำคัญที่มีความต่างกับระบบการเงินในปัจจุบัน แต่ถึงกระนั้นพ่อค้าที่จะยอมรับบิตคอยน์เป็นวิธีการชำระเงินยังมีจำนวนไม่มาก 

ในช่วงที่ผ่านมามีตัวเลขการใช้งานเพื่อการชำระเงินเพิ่มขึ้น แต่มันคงยังห่างไกลกับคำว่า มีการยอมรับการใช้งานอย่างแพร่หลาย

การยอมรับอย่างแพร่หลายของบิตคอยน์ในฐานะระบบในการชำระเงินนั้น จะสำเร็จได้โดยการยอมรับการใช้งาน ไลท์นิ่งเน็ตเวิร์ค (Lightning Network) ซึ่งเป็น เครือข่ายลำดับชั้นที่ 2 (Layer 2) ที่มีการใช้งานเพิ่มขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ต้นปี 2021 

หลักฐานที่แสดงให้เห็นนี้ ก็คือจำนวนช่องที่ใช้ชำระเงินมีการเปิดใช้งานมากขึ้น

รูปด้านบนแสดงถึงการใช้งานที่เพิ่มขึ้นของไลท์นิ่งเน็ตเวิร์ค (Lightning Network)

4. สื่อกระแสหลักยังคงรายงานข่าวด้านลบของ บิตคอยน์

เมื่อ บิตคอยน์ ราคาลดลง 20% แค่อีกไม่นานสื่อทั่วไปจะเริ่มพูดถึงตลาดขาลงและเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ บิตคอยน์ ในทุกๆ ด้าน 

สื่อเหล่านี้รู้ดีว่าหัวข้อข่าวเหล่านี้เป็นสิ่งที่สามารถเชื้อเชิญคนให้เข้ามาอ่านได้ พวกเขาจะรายงานข่าวเหล่านั้นในทางที่ผิด

รายงานข่าวที่เกี่ยวกับการปฏิวัติอันน่าทึ่งของบิตคอยน์จึงมักจะเป็นไปในแง่ลบ โดยพวกเขาพยายามหาแง่มุมต่างๆ เพื่อนำมาโจมตี

  • บิตคอยย์ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
  • บิตคอยน์เป็นเรื่องหลอกลวง
  • บิตคอยน์ถูกใช้โดยพวกอาชญากรเท่านั้น
  • บิตคอยน์เป็นเทคโนโลยีที่ล้าหลัง….

ผมขอยกตัวอย่างเพียงเท่านี้ แต่คุณก็น่าจะเห็นพาดหัวข่าวพวกนี้ตามสื่อทั่วๆไปหลายต่อหลายครั้ง และนี่เป็นสัญญาณที่บอกว่า คนเขียนข่าวไม่ได้ทำหน้าที่อย่างซื่อตรง 

สิ่งที่พวกเขาทำเป็นเพียงแค่การเอาประเด็นเก่าๆ เหล่านี้มาเล่าซ้ำไปซ้ำมา เพราะประเด็นเหล่านั้นมีการพิสูจน์ไปแล้วว่า เป็นแค่ความเข้าใจที่ผิด

เมื่อเทคโนโลยีเกิดใหม่ กำลังจะเริ่มเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลก และมันยังอยู่ในช่วงช่วงแรกเริ่มที่คนกำลังค่อยๆ ยอมรับมาใช้งาน คุณหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเจอกับอากัปกิริยาเหล่านี้ 

สิ่งนี้จะเปลี่ยนไปในทิศทางที่ตรงข้าม หากราคาบิตคอนย์เพิ่มสูงขึ้น และมีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นในอนาคต

5. ไลท์นิ่งเน็ตเวิร์คยังไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลายในหมู่ผู้ใช้งานบิตคอยน์

ไลท์นิ่งเน็ตเวิร์ค เป็นอนาคตของระบบชำระเงินของ บิตคอยน์ เครือข่ายเลเยอร์ที่ 2 (Layer 2) ที่จะทำให้การชำระเงินเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำ 

หากลองเทียบว่าบล๊อกเชนหลักของบิตคอนย์เป็นธนาคารกลาง ในขณะที่ไลท์นิ่งเน็ตเวิร์คเป็นช่องทางการชำระเงินที่มีความยืดหยุ่นสูง ระบบการเงินมาตรฐานบิตคอยน์ (The Bitcoin Standard) ก็จะทำงานอยู่บนระบบเหล่านี้

โชคไม่ดี.. ที่ไลท์นิ่งเน็ตเวิร์คยังมีคนรู้ที่จักมันเพียงจำนวนน้อย หลายคนจึงยังวิพากษ์วิจารณ์บิตคอยน์ว่าไม่เหมาะสำหรับเพื่อใช้จ่ายเงินจำนวนเล็กๆ 

เพราะพวกเขาไม่รู้ว่า ไลท์นิ่งเน็ตเวิร์ค มันคืออะไร?

ไลท์นิ่งเน็ตเวิร์ค (lightning Network) เป็นคำตอบที่มีความสำคัญอย่างมากในชุมชนบิตคอยน์ เพื่อให้บิตคอยน์สามารถใช้งานได้อย่างแพร่หลาย และเมื่อการยอมรับดำเนินต่อไป ผู้ใช้งานทั่วไปก็จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับ ไลท์นิ่งเน็ตเวิร์ค เอง

6. ประสบการณ์ของผู้ใช้งาน(User experience) ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นการพัฒนา

ตัวผมเองเป็นนักพัฒนาโปรแกรม (ผู้เขียนบทความ) ผมจึงไม่ได้มีประสบการณ์ที่แย่เกี่ยวกับการใช้งานบิตคอยน์ ผมคิดว่ามีกระบวนการพัฒนาต่างๆ เกิดขึ้นมาอยู่เรื่อยๆ ตั้งแต่บิตคอยน์ได้ถูกสร้างขึ้นมา แต่ถึงอย่างไรผมเองก็ไม่ใช่คนทั่วไป เพราะผมเป็นนักพัฒนาโปรแกรม

ดังนั้นลองคุณจินตนาการว่าหากคุณเป็นผู้ที่จะใช้งานบิตคอยน์ โดยที่คุณไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ถ้ามีคนบอกคุณว่าการใช้งานบิตคอยน์มีความซับซ้อนมากเกินไปสำหรับพวกเขา 

คุณไม่ควรถกเถียงกับพวกเขา แต่มุ่งพัฒนาบิตคอยน์เพื่อให้แน่ใจว่าประสบการณ์ผู้ใช้งานมันจะดีมากยิ่งขึ้น

 ความคืบหน้าในการใช้งานอย่างแพร่หลาย จะดำเนินไปได้ โดยที่เราต้องหยุดให้รายละเอียดทางเทคนิคเกี่ยวกับบิตคอยน์ ที่อาจทำให้คนทั่วไปมองได้ว่า การจะสามารถเข้าใจเรื่องบิตคอยน์ได้ จำเป็นต้องเรียนรู้เรื่องที่มีความซับซ้อน

อย่างเช่น การเข้ารหัส ฟังก์ชันแฮช (hash functions) หรือ กุญแจสาธารณะ / กุญแจส่วนตัว (Private / Public key) การทำทุกอย่างที่ซับซ้อนจะถูกซ่อนจากผู้ใช้งานทั่วไป 

เหมือนกับผู้ใช้งานเว็บไซต์ก็ไม่ความจำเป็นต้องเข้าใจ ว่าเว็บไซต์ที่พวกเขาใช้อยู่นั้นมีเบื้องหลังการทำงานอย่างไร

นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุด ถ้าคุณต้องการจะเป็นผู้ใช้งานบิตคอยน์กลุ่มแรก เช่นเดียวกันกับโอกาสที่จะเข้าไปเป็นผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตกลุ่มแรก ในช่วงท้ายยุค 90 

โปรดอย่าลืมว่าจำนวนผู้ใช้งาน 130 ล้านคน เป็นตัวเลขเดียวกันกับจำนวนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในปี 1997

ลองดูว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกับอินเทอร์เน็ต? 

แต่ถึงอย่างนั้น หลายคนในตอนแรกก็ยังพูดว่าอินเทอร์เน็ตจะเกิดขึ้นมาแล้วตายจากไป หรือบอกว่ามันซับซ้อนเกินไปที่จะนำมาใช้งานจริง 

นี่ไม่ทำให้คุณนึกถึงคำวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับบิตคอยน์ที่คุณได้ยินบ่อยๆ อย่างงั้นหรือ?

หมายเหตุผู้แปล : ประสบการณ์ของผู้ใช้งาน (user Experience) คือ ประสบการณ์ของผู้ใช้งานในด้านความรู้สึกที่ตอบสนองต่อการใช้งานผลิตภัณฑ์ หรือระบบต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น ความสะดวกสบาย ใช้งานง่าย ความสนุกสนาน จนเกิดเป็นความพึงพอใจสูงสุดหรือเกิดประสบการณ์ที่ดีของผู้ใช้งานนั่นเอง

7. ราคาของ บิตคอยน์ ยังคงมีความผันผวนอยู่มาก

บิตคอยน์ เป็นโลกของตลาดเสรีอย่างแท้จริง การแลกเปลี่ยนเกิดขึ้นได้ตลอด 24 ชั่วโมง, 7 วันต่อสัปดาห์ และ 365 วันต่อปี ผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยนเพื่อค้นหาราคาบิตคอยน์ที่เหมาะสมได้ตลอดเวลา 

สิ่งนี้แสดงได้อย่างชัดเจนว่าความผันผวนของราคาบิตคอยน์เป็นจุดเด่น ไม่ใช่ข้อบกพร่อง

นักลงทุนหลายคน ต้องเผชิญกับความยากลำบากในการจัดการกับความผันผวนเหล่านี้ เหตุเพราะว่าพวกเขาไม่คุ้นชินกับความผันผวนมานานแล้ว 

เพราะตลาดหลักทรัพย์หลายแห่งมักจะเข้าแทรกแซงหยุดการซื้อขายหุ้นทันที โดยการใช้ เซอร์กิตเบรกเกอร์ (Circuit Breaker) หากว่าราคาหุ้นตัวนั้นขึ้นสูง หรือลดลงมากเกินกว่าที่ได้กำหนดเอาไว้

ความผันผวนของบิตคอยน์นี้ มันมีความสมเหตุสมผลเนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่พึ่งเกิดขึ้นมาใหม่ ในความคิดของผม.. เมื่อมูลค่าตลาดของบิตคอยน์เพิ่มขึ้น ความผันผวนบิตคอยน์จะลดลงไปเอง 

ราคาของบิตคอนย์ตอนนั้นอาจจะมากเกินกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐไปแล้ว…

บทสรุปสุดท้าย

การได้เผชิญหน้ากับการปฏิวัติที่น่าอัศจรรย์อย่างบิตคอยน์ คุณมีมุมมองได้สองทาง : ต่อต้านมัน และคุณจะพบว่าเสียเวลาทำอย่างนั้นโดยเปล่าประโยชน์ 

หรือว่า.. คุณจะตระหนักได้ แล้วรีบเข้าไปเรียนรู้บิตคอยน์ แล้วตอบรับการปฏิวัตินี้เร็วที่สุด เพื่อจะได้อยู่ในกลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มแรก ผู้ที่จะได้รับประโยชน์สูงสุด

ถ้าคุณเลือกที่จะเรียนรู้ในวันนี้ด้วยการยอมรับการปฏิวัติของบิตคอยน์ จากนั้นก็กลายเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มแรกของบิตคอยน์ เป็นผู้ที่จะได้ผลประโยชน์มากที่สุดที่จะตามมาในอนาคต เหมือนอย่างผู้ที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตกลุ่มแรกที่กำลังเก็บเกี่ยวผลประโยชน์อย่างมหาศาลในตอนนี้ จากการที่พวกเขาได้ตัดสินใจในช่วงท้ายยุค 90s

สารจากผู้แปล

บทความนี้เป็นเพียง “ความเห็น” ของคุณ Sylvain Saurel ที่ผมได้นำมาแปลเท่านั้น ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อแนะนำการซื้อ/ขายสินทรัพย์ หรือเชื้อเชิญการลงทุน การกระทำดังกล่าวควรเกิดจากความเข้าใจ และต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง ผู้แปลเพียงแค่นำเอามุมมองอันหนึ่งที่น่าสนใจ มานำเสนอเพียงเท่านั้น

Secretman DF

บทความโดย Sylvain Saurel Dec 11, 2021
ที่มา 
https://crypto.writer.io/p/7-signs-youre-an-early-adopter-if

SecretmanDF

** ทุกบาทหรือทุกซาโตชิที่ donate จะถูกส่งเข้ากระเป๋าของผู้เขียนโดยตรงครับ :) **

Share this post

3 Comments

  1. ขอบคุณบทความดีๆ จาก คุณ Secretman DF
    ในอนาคตถ้าผมเริ่มใช้ Lightning Network เป็นแล้ว ผมคง buy the writer a coffee ได้
    ผมเพิ่งเริ่มต้นศึกษา Bitcoin มาไม่ถึงปีครับ

  2. ข้อ 6. ความผันของบิตคอยน์นี้ มันมีความสมเหตุสมผลเนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่พึ่งเกิดขึ้นมาใหม่
    ตกคำว่า “ผวน” ไปครับ

Leave a Reply

Connect with

Your email address will not be published. Required fields are marked *


Related Posts

Economic
SecretmanDF

วิกฤตในเลบานอน

ท่ามกลางวิกฤตการณ์ทางการเงินของประเทศเลบานอน คนในประเทศเขารับมือกันอย่างไร? ถ้าคุณอยากรู้ล่ะก็เข้ามาอ่านกันได้เลย

Read More »
Bitcoin
SecretmanDF

ทำไมต้องเป็น “บิตคอยน์”  ไม่เป็น “ชิตคอยน์”?

บิตคอยน์ไม่เหมือนชิตคอยน์ แล้วทำไมต้องเป็นบิตคอยน์? ก่อนที่เราจะเริ่มพิจารณาเหรียญดิจิทัลอื่น ๆ ก็ควรแยกสองสิ่งนี้ออกจากกันให้เป็นเสียก่อน ถ้าคุณอยากรู้ว่ามันต่างกันอย่างไรแล้วล่ะก็ ตามผมมาได้เลย!

Read More »
decentralized
Bitcoin
SecretmanDF

Why does bitcoin need to be decentralized ?

สงสัยกันไหมครับ ทำไมเราไม่ให้บริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่ อย่าง กูเกิล (Google) เป็นผู้สร้างเงินดิจิทัลขึ้นมา? สกุลเงินดิจิทัลที่สร้างโดยบริษัทเหล่านั้น น่าจะมีประสิทธิภาพที่ดีกว่า รองรับธุรกรรมจากคนทั่วโลกได้มากกว่า และที่สำคัญมันน่าจะได้รับการยอมรับจากรัฐบาลง่ายกว่า ทำไมต้องเป็น เงินดิจิทัลที่ไร้ศูนย์กลาง ที่ใครก็ไม่รู้ใช้นามแฝงว่า ซาโตชิ นากาโมโต้ สร้างขึ้นมา ?

Read More »
Fiat
SecretmanDF

When we look at the fiat system, what will we see?

ระบบเงินเฟียตเกี่ยวข้องกับชีวิต และสังคมเราในหลายมิติ หัวข้อเหล่านี้ไม่ได้แสดงถึงภาพทั้งหมดของความเลวร้ายในระบบเงินเฟียต ผมแค่หยิบยกบางหัวข้อที่ผมอยากจะให้ทุกท่านได้เห็นภาพกันคร่าวๆ ว่ามันหยั่งรากลึกทำลายสังคม และทำร้ายผู้คนได้มากขนาดไหน

Read More »