lk
Picture of Libertarian Insight

Libertarian Insight

ในโลกที่อำนาจรวมศูนย์คือคำตอบของผู้ปกครอง อิสรนิยมคือคำถามที่ไร้ซึ่งคำตอบสำหรับผู้ที่หวาดกลัวเสรีภาพ มันคือการเรียกร้องครั้งสุดท้ายของมนุษย์ผู้ปรารถนาจะพ้นจากกรงเหล็กแห่งการควบคุมและการบังคับบัญชา มันไม่ได้เป็นเพียงปรัชญา แต่คือการปฏิวัติที่เงียบงันในหัวใจของผู้ที่ยอมปฏิเสธการเป็นเพียงฟันเฟืองในเครื่องจักรแห่งรัฐ

รากฐานแห่งอิสรนิยม: เสรีภาพของปัจเจกเหนืออำนาจรัฐ

อิสรนิยมคือคำถามที่ไร้ซึ่งคำตอบสำหรับผู้ที่หวาดกลัวเสรีภาพ มันคือการเรียกร้องครั้งสุดท้ายของมนุษย์ผู้ปรารถนาจะพ้นจากกรงเหล็กแห่งการบังคับควบคุม มันไม่ได้เป็นเพียงปรัชญา แต่คือการปฏิวัติที่เงียบงันในหัวใจของผู้ที่ยอมปฏิเสธการเป็นเพียงฟันเฟืองในเครื่องจักรแห่งรัฐ

อิสรนิยม คืออะไร?

ในโลกที่เต็มไปด้วยกรงขังทางอำนาจ อิสรนิยมคือเสียงที่เรียกร้องให้มนุษย์กลับมาทวงคืนสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและทรัพย์สินของตน มันไม่ได้เป็นเพียงปรัชญา แต่เป็นการต่อต้านการครอบงำจากรัฐ รวมถึงเป็นเครื่องมือที่ปลุกมนุษย์ให้ตื่นจากความเชื่อที่ว่ารัฐเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้

ในยุคที่มนุษย์ยังเคารพกฎธรรมชาติ (Natural Law) แนวคิดอิสรนิยมถือกำเนิดขึ้นท่ามกลางความพยายามที่จะแยกมนุษย์ออกจากกรงขังแห่งอำนาจรัฐ อริสโตเติล (Aristotle) และเซเนกา (Seneca) เคยกล่าวถึงกฎแห่งธรรมชาติที่ควรเป็นคู่มือของมนุษยชาติ ซึ่งสะท้อนถึงความยุติธรรมที่ไม่ขึ้นกับอำนาจใด ๆ แต่กฎเหล่านี้กลับถูกบิดเบือนและใช้เป็นเครื่องมือของผู้ครองอำนาจที่ฉกฉวยประโยชน์จากประชาชนแทนที่จะปกป้องพวกเขา

ในยุคเรืองปัญญา (Enlightenment Era) จอห์น ล็อค (John Locke) ชูแนวคิดสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและทรัพย์สิน ล็อคเห็นว่ารัฐบาลที่ดีไม่ควรเป็นผู้ควบคุมประชาชน แต่ควรทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์สิทธิเหล่านี้เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ประวัติศาสตร์ได้พิสูจน์ว่า รัฐบาลมักแปลงร่างเป็นนักล่า ที่ใช้อำนาจของตนเพื่อสร้างข้อจำกัดและฉกฉวยเสรีภาพจากประชาชนแทนที่จะปกป้องพวกเขา

"Government has no other end but the preservation of property."

"หน้าที่เดียวของรัฐบาลคือการปกป้องทรัพย์สิน มิใช่ล้ำเส้นเกินกว่านั้น"

จอห์น ล็อค (John Locke)

เมื่อการปฏิวัติอเมริกาเกิดขึ้น แนวคิดเหล่านี้ถูกหลอมรวมเป็นคำประกาศอิสรภาพ (Declaration of Independence) โดยโธมัส เจฟเฟอร์สัน (Thomas Jefferson) ที่ประกาศสิทธิ “ชีวิต เสรีภาพ และการแสวงหาความสุข” ให้เป็นสิ่งที่ไม่อาจพรากไปได้ ซึ่งถือเป็นการต่อต้านระบบศักดินาและอำนาจรวมศูนย์ที่กดขี่ประชาชนมาตลอด

ในยุโรป การเปลี่ยนผ่านจากยุคศักดินาสู่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมเป็นการเปิดประตูสู่ระบบตลาดเสรี ซึ่งเป็นแนวคิดหลักของอิสรนิยม การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวไม่เพียงแต่เปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจ แต่ยังปลดปล่อยประชาชนจากการพึ่งพาอำนาจของผู้ปกครอง และสนับสนุนให้พวกเขาแสดงศักยภาพของตนเองอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม คำถามสำคัญยังคงอยู่ “ใครจะเฝ้าระวังผู้คุ้มครอง?” เมื่อผู้มีอำนาจเองคือผู้ที่อาจทำลายสิทธิเหล่านั้นในนามของกฎหมายและกฎระเบียบที่พวกเขากำหนดขึ้น

การพัฒนาอิสรนิยมศตวรรษที่ 19 และ 20: เสรีภาพเบ่งบานท่ามกลางเงาอำนาจรัฐ

เศรษฐศาสตร์สายออสเตรียน (Austrian Economics) คือเสียงเพรียกที่ดังก้องในยุคที่รัฐเริ่มกลายเป็นเครื่องมือแทรกแซงตลาด ลุดวิก ฟอน มีเซส (Ludwig von Mises) ชี้ให้เห็นว่ากลไกราคาไม่ใช่เพียงตัวเลข แต่มันคือเสียงสะท้อนของความต้องการและทรัพยากรในระบบตลาด เมื่อรัฐยื่นมือเข้ามาเปลี่ยนแปลงและแทรกแซง กลไกราคากลับกลายเป็นสิ่งที่ไร้ความหมาย ราวกับบทเพลงที่ถูกหยุดลงกลางท่อน

แนวคิดของลุดวิก ฟอน มีเซส ไม่ได้เป็นเพียงข้อเสนอทางเศรษฐศาสตร์ แต่เปรียบเสมือนการเรียกร้องให้มนุษยชาติกลับมายึดมั่นในปรัชญากฎธรรมชาติที่ถูกละเลย จอห์น ล็อคเน้นย้ำว่าการปกป้องสิทธิในทรัพย์สินและเสรีภาพของปัจเจกบุคคลคือพื้นฐานของสังคมที่ยุติธรรม หลักการ “การไม่ใช้ความรุนแรง” (Non-Aggression Principle) ซึ่งถูกนำมาใช้โดยนักคิดสายออสเตรียน กลายเป็นดั่งเสาหลักที่ยืนยันว่า การแทรกแซงของรัฐไม่ได้เพียงแต่ทำลายเสรีภาพ แต่ยังขัดขวางศักยภาพของมนุษย์ในการกำหนดชะตาชีวิตของตนเอง รัฐที่ล่วงล้ำอำนาจจึงไม่ต่างอะไรกับกรงเหล็กที่ครอบคลุมศักยภาพที่แท้จริงของมนุษย์ไว้

"Freedom always means freedom from government." 

"เสรีภาพคือการปลดพันธนาการจากเงื้อมมือของรัฐบาล"

ลุดวิก ฟอน มีเซส (Ludwig von Mises)

เฟรเดอริก บาสเตีย (Frédéric Bastiat) วิพากษ์ “การปล้นที่ถูกกฎหมาย” (Legalized Plunder) ว่ารัฐบาลได้ใช้หน้ากากแห่งความชอบธรรมบังหน้าความอยุติธรรม โดยการเก็บภาษีและอุดหนุนกลุ่มผลประโยชน์ที่สนับสนุนอำนาจรัฐ บาสเตียเตือนว่า การกระจายความมั่งคั่งอย่างแท้จริงไม่ใช่การทำให้ทุกคนมีผลลัพธ์ที่เท่าเทียมกันอย่างสิ้นเชิง เพราะความเท่าเทียมเชิงผลลัพธ์นั้นนำไปสู่การลดทอนแรงจูงใจและประสิทธิภาพของระบบเศรษฐกิจ แต่ควรหมายถึงการสร้างระบบที่เปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงทรัพยากรและศักยภาพทางเศรษฐกิจได้อย่างยุติธรรม โดยปราศจากการแทรกแซงที่ไม่เป็นธรรมจากรัฐหรือผู้มีอำนาจ เสรีภาพในเศรษฐกิจจึงเปรียบเสมือนแสงสว่างที่เปิดทางให้มนุษย์สร้างคุณค่าและความเจริญด้วยศักยภาพของตนเอง

ในขณะเดียวกัน เมอร์เรย์ รอธบาร์ด (Murray Rothbard) ได้เสนอแนวคิดอนาธิปไตยแบบทุนนิยมเสรี (Anarcho-Capitalism) ซึ่งเปรียบเสมือนการปลดปล่อยความคิดของมนุษยชาติจากกรอบความเชื่อที่ว่ารัฐเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ รอธบาร์ดยืนยันว่าสังคมที่ปราศจากรัฐจะไม่เพียงแค่สามารถดำรงอยู่ได้ แต่ยังสามารถเติบโตและพัฒนาภายใต้ระบบที่เคารพเสรีภาพของปัจเจกบุคคล เสรีภาพทางเศรษฐกิจสำหรับเขานั้นเป็นดั่งกระแสน้ำที่ไหลเวียนเพื่อหล่อเลี้ยงความมั่งคั่งและความยุติธรรม โดยไม่มีสิ่งกีดขวางจากกำแพงที่เรียกว่ารัฐ แนวคิดของเขายังชี้ว่า การที่ทุกคนสามารถเข้าร่วมและตัดสินใจในตลาดเสรีได้อย่างสมัครใจ จะช่วยสร้างระบบที่มีความเป็นธรรมและยั่งยืนมากกว่าเดิมอย่างแท้จริง รัฐบาลที่พยายามควบคุมหรือแทรกแซงเศรษฐกิจนั้นไม่ต่างอะไรกับเครื่องจักรที่กัดกินทรัพยากรและเสรีภาพของประชาชนในนามของความมั่นคง ซึ่งในความเป็นจริงกลับยิ่งสร้างปัญหาและทวีความไม่เท่าเทียมในสังคมให้เพิ่มมากขึ้น

ฟริดริช ฮาเย็ค (Friedrich Hayek) ย้ำถึงพลังของเสรีภาพในการกระตุ้นนวัตกรรมและการสร้างสรรค์ โดยเขาเปรียบเสรีภาพเสมือนเชื้อเพลิงที่จุดไฟแห่งความคิดและทำให้มนุษยชาติสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดทั้งปวง ฮาเย็คชี้ว่าการปล่อยให้รัฐเป็นศูนย์กลางของทรัพยากรและการตัดสินใจ ก็ไม่ต่างอะไรกับการมอบปีกให้นกแล้วตัดทิ้งก่อนที่มันจะมีโอกาสได้บิน เสรีภาพไม่ได้เป็นเพียงสิ่งที่ควรค่าแก่การปกป้องเท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งที่หล่อเลี้ยงความเจริญและการพัฒนาในระยะยาว

ฮาเย็คยังเตือนด้วยว่า หากไม่มีการแข่งขันอย่างเสรี สังคมจะเสี่ยงต่อการตกอยู่ในวงจรความซ้ำซากที่ไร้การพัฒนา ความคิดสร้างสรรค์จะถูกจำกัดอยู่ในกรอบที่รัฐกำหนด และการพึ่งพาอำนาจส่วนกลางจะนำไปสู่การเสื่อมถอยทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคม เขาเน้นว่าการแข่งขันเสรีไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือของตลาด แต่เป็นกลไกสำคัญที่เปิดโอกาสให้มนุษย์แสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่ และสร้างระบบที่สมดุลระหว่างความเจริญกับความยุติธรรม

บิตคอยน์: เสรีภาพทางการเงินในจิตวิญญาณอิสรนิยม

ในปี 2008 บิตคอยน์ถือกำเนิดขึ้นมาเป็นเหมือนแสงสว่างที่สาดส่องเข้าสู่ยุคที่เสรีภาพทางการเงินถูกกดขี่ ระบบเงินดิจิทัลนี้ไม่ได้เป็นเพียงนวัตกรรมทางเทคโนโลยี แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งการต่อต้านอำนาจรวมศูนย์ที่เคยครอบงำชีวิตผู้คนมานาน บิตคอยน์ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) ซึ่งเปรียบเสมือนระบบบัญชีที่ไร้ศูนย์กลาง เปิดทางให้ทุกธุรกรรมเป็นอิสระจากการควบคุมของธนาคารหรือรัฐ บิตคอยน์จึงไม่ใช่เพียงเครื่องมือทางการเงิน แต่ยังเป็นเสียงเรียกร้องของปัจเจกชนที่ต้องการคืนอำนาจกลับสู่มือของพวกเขาเอง

ในแง่ปรัชญา บิตคอยน์สะท้อนถึงแนวคิดอิสรนิยมอย่างลึกซึ้ง มันเปรียบเสมือนตัวแทนแห่งการต่อต้านอำนาจรวมศูนย์และการทวงคืนเสรีภาพทางการเงินกลับมาอยู่ในมือของประชาชนอีกครั้ง บิตคอยน์ไม่ได้เพียงส่งเสริมความรับผิดชอบส่วนบุคคลในการจัดการทรัพย์สิน แต่ยังแสดงถึงการปฏิเสธต่อระบบที่ผู้มีอำนาจสามารถใช้อิทธิพลในทางที่ผิด ด้วยเทคโนโลยีที่กระจายอำนาจและไม่สามารถควบคุมแทรกแซงได้โดยธรรมชาติ บิตคอยน์เปิดโอกาสให้ปัจเจกบุคคลสามารถเข้าถึงระบบเศรษฐกิจโลกได้อย่างเท่าเทียม ปราศจากข้อจำกัดที่มักเกิดจากการควบคุมของระบบการเงินแบบดั้งเดิม มันจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของการปลดปล่อยและการท้าทายต่อระบบที่พึ่งพาอำนาจส่วนกลาง

  • เสรีภาพทางการเงิน : บิตคอยน์คืนอำนาจให้แก่ปัจเจกบุคคล ให้พวกเขาควบคุมทรัพย์สินของตัวเองอย่างเต็มรูปแบบ โดยไม่ต้องพึ่งพาธนาคารหรือรัฐบาล แนวคิดนี้สะท้อนถึงอิสรภาพในการเลือกและการแสดงเจตจำนงของแต่ละบุคคล
  • การต่อต้านเงินเฟ้อ : ด้วยจำนวนที่จำกัดเพียง 21 ล้านเหรียญและไม่มีใครสามารถผลิตมันได้โดยไม่มีต้นทุน ทุกคนสามารถเข้าร่วมการผลิตได้ภายใต้กฎกติกาเดียวกัน บิตคอยน์ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันการพิมพ์เงินจากอากาศที่เป็นต้นเหตุของเงินเฟ้อในระบบการเงินแบบเดิม นี่คือการส่งเสริมระบบที่คงคุณค่าของเงินในระยะยาว ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของเศรษฐศาสตร์สายออสเตรียนที่มองว่าเสถียรภาพทางการเงินคือรากฐานของเสรีภาพ

"I don’t believe we shall ever have a good money again before we take the thing out of the hands of government."

"ผมไม่เชื่อเราจะมีวันได้เห็นเงินที่ดีอีก จนกว่ารัฐบาลจะถูกปลดจากบังเหียนแห่งการควบคุมเงินตรา"

ฟรีดริช ฮาเย็ค (Friedrich Hayek)

อิสรนิยมในยุคใหม่: เสรีภาพปัจเจกในยุคดิจิทัล

ในขณะที่สังคมนิยมเน้นการควบคุมทรัพยากรโดยรัฐ อิสรนิยมกลับชูเสรีภาพในฐานะกลไกที่ให้ประชาชนสามารถเลือกและสร้างชีวิตของตนเองได้ ภายใต้ระบบที่รัฐเป็นผู้กำหนดเส้นทางแห่งเศรษฐกิจ ความคิดสร้างสรรค์และเสรีภาพมักถูกจำกัด ตัวอย่างเช่น ในสหภาพโซเวียต ระบบเศรษฐกิจที่รัฐควบคุมอย่างเข้มงวดกลายเป็นภาพสะท้อนของความล้มเหลว ไม่เพียงแต่การนำมาซึ่งการขาดแคลนทรัพยากร แต่ยังกัดกร่อนทำลายจิตวิญญาณของประชาชน การรวมศูนย์ของอำนาจเป็นเหมือนกรงที่ขังศักยภาพของมนุษย์ไว้ไม่ให้เบ่งบาน อิสรนิยมจึงเสนอแนวทางที่ต่างออกไป โดยปลดปล่อยการควบคุมและสนับสนุนให้ปัจเจกบุคคลสามารถกำหนดเส้นทางชีวิตของตนเองได้อย่างแท้จริง

"It is no crime to be ignorant of economics, but it is totally irresponsible to have a loud and vociferous opinion on economic subjects while remaining in this state of ignorance." 
"การเพิกเฉยต่อเศรษฐศาสตร์ไม่ใช่ความผิด แต่การตะโกนเสียงดังในความมืดโดยไร้ความเข้าใจนั้น คือการทรยศต่อความรับผิดชอบที่พึงมี"

เมอร์เรย์ รอธบาร์ด (Murray Rothbard)

อิสรนิยมไม่ได้เป็นเพียงปรัชญาอีกต่อไป แต่มันกลายเป็นอาวุธที่ประชาชนในประเทศต่าง ๆ ใช้ในการต่อต้านการกดขี่และแทรกแซงจากรัฐ ภายใต้เงื่อนไขของสังคมที่มีอำนาจรวมศูนย์ ตัวอย่างเช่น ในเวเนซุเอลา ประชาชนได้หันมาใช้บิตคอยน์เพื่อหลีกหนีระบบเงินเฟียตของรัฐที่ล้มเหลวและปราศจากคุณค่า การใช้บิตคอยน์ในบริบทนี้ไม่ได้เป็นเพียงระบบการเงินทางเลือก แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการปฏิเสธการครอบงำของอำนาจรัฐที่ล้มเหลว ในสหรัฐฯ พรรค Libertarian ยังคงผลักดันแนวคิดลดบทบาทของรัฐบาลในทุกมิติ โดยเน้นไปที่การคืนอำนาจให้ปัจเจกบุคคลและการสร้างระบบเศรษฐกิจที่ไม่ถูกแทรกแซง

อย่างไรก็ตาม ในโลกปัจจุบันที่รัฐยังคงเฝ้ามองและควบคุมชีวิตของประชาชนในทุกแง่มุม การแสวงหาเสรีภาพแท้จริงจึงเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ คำถามสำคัญที่ต้องเผชิญคือ “เสรีภาพจะสามารถเจริญงอกงามในสังคมที่ถูกรายล้อมด้วยสายตาและกรงเล็บของรัฐได้อย่างไร หรือประชาชนจำเป็นต้องสร้างระบบใหม่ที่สามารถท้าทายและต่อต้านการแทรกแซงนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ?”

บทเรียนแห่งอิสรนิยมและบิตคอยน์: เสรีภาพที่สร้างได้ด้วยตัวเรา

การต่อสู้ของอิสรนิยมและบิตคอยน์เป็นดั่งคลื่นที่สาดซัดเข้าหากำแพงแห่งอำนาจรวมศูนย์ ซึ่งถูกสร้างขึ้นจากความเชื่อในระบบที่ควบคุมประชาชนมากกว่าจะรับใช้พวกเขา บิตคอยน์พิสูจน์ให้เห็นว่าเสรีภาพและการกระจายอำนาจไม่ใช่เพียงความฝันในอุดมคติ แต่เป็นเครื่องมือที่สามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอำนาจในสังคมได้จริง

อย่างไรก็ตาม เส้นทางนี้เต็มไปด้วยอุปสรรคที่ซับซ้อนและท้าทาย เช่น การขาดความรู้ในเทคโนโลยีของผู้คนทั่วไป ทำให้การยอมรับและการใช้งานยังจำกัดอยู่ในวงแคบ นอกจากนี้การต่อต้านจากผู้ครองอำนาจที่พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาสถานะเดิมของตนก็ยังเป็นกำแพงที่ยากจะทำลาย ทั้งนี้อนาคตของการกระจายอำนาจขึ้นอยู่กับความสามารถของประชาชนที่จะเข้าใจและใช้เทคโนโลยีเพื่อเสริมสร้างเสรีภาพในชีวิตประจำวัน และความกล้าหาญที่จะยืนหยัดต่อสู้กับอำนาจที่คอยจำกัดเสรีภาพเหล่านั้น

ในโลกที่ถูกครอบงำด้วยการบิดเบือนและการควบคุม อิสรนิยมและบิตคอยน์ได้กลายเป็นแสงสว่างที่ฉายให้เห็นถึงความหวังของเสรีภาพที่แท้จริง และความยุติธรรมที่ปราศจากกรงขังแห่งอำนาจรวมศูนย์ แต่คำถามสำคัญยังคงก้องอยู่ในความเงียบของประวัติศาสตร์ “เราพร้อมหรือไม่ที่จะตระหนักถึงคุณค่าของเสรีภาพที่แท้จริง? เราจะกล้าพอที่จะยืนหยัดต่อสู้เพื่อปกป้องสิ่งที่เรารู้ว่า ‘ถูกต้อง’ หรือเราจะปล่อยให้สายตาอันเย็นชาของการควบคุม และเสียงกระซิบของความกลัว กลืนกินเจตจำนงแห่งเสรีภาพของเราไปตลอดกาล?”

อิสรนิยมที่แท้จริงคงไม่อาจเกิดขึ้นได้หากยังคงมีเงินที่ถูกยึดครองโดยอำนาจรัฐ เงินที่ผูกติดกับการควบคุมและการฉกฉวยของผู้ถืออำนาจ ระบบการเงินที่ไม่เป็นอิสระนั้นไม่สามารถปลดปล่อยมนุษย์จากการกดขี่ได้ ทองคำซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นสัญลักษณ์ของความมั่นคงทางเศรษฐกิจ แต่จุดอ่อนของมันกลับอยู่ที่การถูกรวมศูนย์โดยรัฐ ในขณะที่ในปัจจุบันนั้น โลกของเรากำลังจะเข้าสู่ระบบมาตรฐานบิตคอยน์ที่จะขับเคลื่อนยุคใหม่ของการปฏิวัติทางการเงินที่ไม่พึ่งพาผู้มีอำนาจอีกต่อไป

การอ้างอิง

  • Locke, John. Two Treatises of Government. Cambridge: Cambridge University Press, 1988.
  • Jefferson, Thomas. The Declaration of Independence. 1776.
  • Mises, Ludwig von. Human Action: A Treatise on Economics. Yale University Press, 1949.
  • Bastiat, Frédéric. The Law. London: Institute of Economic Affairs, 1998.
  • Rothbard, Murray N. For a New Liberty: The Libertarian Manifesto. Auburn: Ludwig von Mises Institute, 1973. 
  • Hayek, Friedrich. The Road to Serfdom. Chicago: University of Chicago Press, 1944. 
  • Hayek, Friedrich. The Denationalisation of Money. London: Institute of Economic Affairs, 1976.
  • Nakamoto, Satoshi. Bitcoin: A Peer-to-Peer Electronic Cash System. 2008. Accessed January 13, 2025.
  • Ammous, Saifedean. The Bitcoin Standard: The Decentralized Alternative to Central Banking. Hoboken: Wiley, 2018.
  • Bastiat, Frédéric. Economic Harmonies. Indianapolis: Liberty Fund, 1996.

ช่องทางติดตาม : เพจอิสรนิยม Insight

Libertarian Insight

ในโลกที่อำนาจรวมศูนย์คือคำตอบของผู้ปกครอง อิสรนิยมคือคำถามที่ไร้ซึ่งคำตอบสำหรับผู้ที่หวาดกลัวเสรีภาพ มันคือการเรียกร้องครั้งสุดท้ายของมนุษย์ผู้ปรารถนาจะพ้นจากกรงเหล็กแห่งการควบคุมและการบังคับบัญชา มันไม่ได้เป็นเพียงปรัชญา แต่คือการปฏิวัติที่เงียบงันในหัวใจของผู้ที่ยอมปฏิเสธการเป็นเพียงฟันเฟืองในเครื่องจักรแห่งรัฐ

** ทุกบาทหรือทุกซาโตชิที่ donate จะถูกส่งเข้ากระเป๋าของผู้เขียนโดยตรงครับ :) **

Share this post

Leave a Reply

Connect with

Your email address will not be published. Required fields are marked *


Related Posts