deepimg-1746451094967
Picture of wazabi

wazabi

มีความลับแต่ยังไม่อยากเปิดเผย มาฝากไว้ที่ SeedKeeper ก่อนมั้ย?

SeedKeeper ทางเลือกเก็บข้อมูลลับแบบ low profile ความปลอดภัยสูง พกพาสะดวก

บทนำ

เมื่อบิตคอยเนอร์ได้ทำการสร้างกระเป๋าของตัวเอง และสลัก Seed phrase ลงโลหะเพื่อความคงทนถาวรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คำถามถัดมาคือเราควรมีชุด backup กี่ชุด?

เหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติต่าง ๆ ทำให้เราเริ่มตระหนักว่าควรมี Hardware Wallet ที่มี Private key และชุด backup แยกเก็บคนละสถานที่ แต่การจะฝากชุดเก็บ Seed โลหะไว้กับญาติที่อยู่ห่างออกไปหรือตู้เซฟธนาคารก็สร้างความกังวล หากมีขโมยค้นพบชุด Seed โลหะโดยที่เราไม่ทันระวัง แล้วจะทำอย่างไรดี?

บทความนี้เสนอทางเลือกในการเก็บข้อมูลลับที่มีความทันสมัย พกพาสะดวก ราคาไม่แพง มีความปลอดภัยแม้จะเก็บในที่ที่ไม่ปลอดภัย มีทางเลือกในการบันทึกและแสดงข้อมูลลับหลายช่องทาง ทั้งผ่านโทรศัพท์มือถือหรือเครื่องคอมพิวเตอร์ และเก็บข้อความได้หลายรูปแบบ ทั้งข้อความจดหมาย, Seed Phrase, Wallet Descriptor และ User/Password ทั้งหมดนี้สามารถบันทึกไว้ได้ภายในอุปกรณ์การ์ดที่ชื่อว่า Seedkeeper

Seedkeeper โดย Satochip

บริษัท Satochip เปิดทำการปี 2019 ตั้งอยู่ที่ประเทศเบลเยียม โดยพัฒนาโปรแกรม Applet ที่สามารถโหลดใส่ใน Smart card กลายเป็นผลิตภัณฑ์หลัก 3 ตัว ได้แก่ :

  • Satochip – ทำหน้าที่เก็บ private key 1 ชุด ใช้เซ็นธุรกรรมผ่าน Sparrow หรือ Electrum 
  • Satodime – ทำหน้าที่เหมือน Opendime ในรูปแบบการ์ด คล้ายกับ Satscard ของ Coinkite
  • Seedkeeper – ทำหน้าที่เก็บข้อมูลลับ

บริษัท Satochip เขียนโค้ด Applet สำหรับใส่ลงไปใน Secure Element ของ Smart card รูปลักษณ์ไม่ต่างจากบัตรเครดิตธนาคารทั่วไป เลือกใช้การ์ดที่มีความปลอดภัยสูง Secure Element Chip ของการ์ดถูกพัฒนาเพิ่มความสามารถในการเข้ารหัสรักษาข้อมูล ป้องกันการเข้าถึงข้อมูลหรือก๊อบปี้โดยไม่ได้รับอนุญาต สามารถทำ Digital Authentication ได้ และมี NFC เพื่อ Contactless transmittion จึงเป็นตัวเลือกที่ผ่านบททดสอบในชีวิตจริงมาเยอะแล้ว เพราะใช้งานอย่างแพร่หลายทั้งภาครัฐในรูปแบบบัตรประชาชนและภาคเอกชนในรูปแบบบัตรเครดิต

รายละเอียดโค้ดของผลิตภัณฑ์การ์ดทั้ง 3 และ package App สำหรับเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ (Android และ Apple) หรือคอมพิวเตอร์ (Windows, Mac และ Linux) ทุกโปรแกรมเปิดเป็น Opensource สามารถดูได้ใน github ให้ผู้ใช้งานและโปรแกรมเมอร์ทั่วไปสามารถรีวิวโค้ดได้ การเปิดเผยโค้ดทำให้บุคคลทั่วไปสามารถ DIY เองได้โดยการซื้อ Smart card รุ่นที่รองรับมาใช้คู่กับ Smart Card Reader  

แต่ Smart card ในท้องตลาดมีหลากหลายผู้ผลิต หลากหลายรุ่น และเลขรหัส ทีมงาน Satochip และผู้ใช้หลายคนในกรุ๊ป telegram ก็มีการทดลองการ์ดหลายเลขรหัสจากหลายผู้ผลิต แต่ก็เต็มไปด้วยความสับสน จนไม่สามารถรับประกันการใช้งานได้ เพราะว่าการ์ดเลขรหัสเดียวกัน แต่ผู้ผลิต/ผู้ขายต่างกันก็อาจมีคุณภาพไม่เหมือนกัน ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยและสนับสนุนผู้ผลิตไปด้วย ผู้เขียนแนะนำให้ซื้อตรงจากเว็บไซต์ เพราะนอกจากจะสนับสนุนเจ้าของโปรเจกต์แล้ว ผู้ใช้จะได้รับการ์ดที่มีความปลอดภัยสูงระดับ EAL 6 ข้อมูลที่ถูกบันทึกในการ์ดจะถูกเข้ารหัสด้วย AES 256 และจะถูกปลดล็อกได้ด้วย PIN code ของผู้ใช้เท่านั้น

EAL (Evaluation Assurance Level) คือมาตรฐานความปลอดภัยระดับนานาชาติ โดยระบบโค้ดและฮาร์ดแวร์จะต้องถูกทบทวนและทดสอบคุณสมบัติต่างๆ เพื่อให้ผ่านเกณฑ์วัดระดับตั้งแต่ 1 ถึง 7 

ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ได้รับมาตรฐาน EAL 

  • EAL 4 : SUSE Linux Enterprise Server 10 / Redhat Linux Enterprise Version 5
  • EAL 5 : Ledger Nano X / Safepal / Ellipal Titan
  • EAL 6 : Ledger Nano S Plus / Ledger Stax / Trezor Safe 3 & 5
  • EAL 7 : NGRAVE Zero

คุณลักษณะของ Seedkeeper

  • Smart card ใช้ Secure Element chip มาตรฐาน EAL 6 และเข้ารหัสข้อมูลด้วย AES 256  
  • ปลดล็อกด้วย PIN code ตัวเลขและ/หรือตัวอักษรตั้งแต่ 4-16 ตัว ใส่รหัส PIN code ผิดได้ 4 ครั้ง เมื่อใส่ผิดครั้งที่ 5 การ์ดจะล็อกตัวเอง ต้องทำการ factory reset เท่านั้น 
  • ขนาดพื้นที่เก็บข้อมูล 4095 byte หากประมาณตัวเลข/ตัวอักษร 1 ตัว เท่ากับ 1 ถึง 2 bytes ก็จะบันทึกได้อย่างน้อย 2000 ตัวอักษร
  • เป็นแผงวงจร และ Chip ไม่มีอุปกรณ์ซับซ้อนให้เสียหายหรือเสื่อมง่าย จึงมีอายุการใช้งาน 10+ ปีที่อุณหภูมิห้องและความชื้นปกติ
  • เชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือที่มี NFC ได้ ผ่าน App Seedkeeper ทั้ง iOS และ Android (ดาวน์โหลดแอปได้ที่นี่)
  • เชื่อมต่อกับ Desktop ได้ทั้ง Windows Mac และ Linux โดยต้องมี Smart Card Reader ผ่านโปรแกรม Satochip-Util Client ที่นี่
  • เมื่อเชื่อมต่อมือถือหรือ Desktop แล้วสามารถ :
    • ดูสถานะการ์ด เปลี่ยนชื่อการ์ด เปลี่ยน PIN ดูปริมาณหน่วยข้อมูลคงเหลือ แสดง log การอ่าน/เขียนข้อมูลในการ์ด และ Clone card ใส่ Seedkeeper อีกใบ
    • Generate Password หรือ Seed Phrase 
    • บันทึกข้อมูลลับแยกออกเป็น 4 รูปแบบ 
      • Password – บันทึกข้อความรหัสลับ ส่วน Username และ URL เป็น Optional
      • Seed Mnemonic – บันทึก Seed Phrase ส่วน Passphrase เป็น Optional
      • Wallet Descriptor – บันทึก Multisig Wallet Descriptor
      • Data – บันทึกข้อความทั่วไป

ตัวอย่างหน้าจอ User Interface ในโทรศัพท์มือถือ

(ตัวอย่างรายการข้อความลับเมื่อปลดล็อกการ์ด และหน้าข้อความลับแบบ Password)

(ตัวอย่างข้อความลับแบบ Mnemonic และการแสดงผลแบบ Seed QR)

(ตัวอย่างข้อความลับ Descriptor และ Descriptor QR และข้อความลับแบบ Data)

คลิปวิดีโอรีวิว Seedkeeper โดย Crypto Guide

คำแนะนำการใช้งาน

  • ในการใช้งานบันทึก Password ผู้เขียนมองว่าควรใช้เก็บ Password ที่สำคัญและไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลง เช่น Google Account และ Master Password ของ Password Manager จะดีกว่า เพราะการใช้เก็บ password เว็บไซต์ต่าง ๆ ทั่วไปโปรแกรม Password Manager ทำหน้าที่นี้ได้ดีกว่า และเราคงไม่ค่อยเอาการ์ดออกจากที่เก็บเพื่อแสดง/อัปเดต Password ไปทีละรายการ
  • ในการ Generate Mnemonic เพื่อสร้าง Seed ผู้เขียนมองว่าการ generate เองโดยใช้ลูกเต๋าจะดีกว่า เพราะเป็นวิธีที่สามารถ verify ได้ และ entropy เกิดจากเราสร้างกับมือเอง ไม่ต้องมีความกังวลว่า Random Number Generator หรือ Script ของโปรแกรมใด ๆ จะพบช่องโหว่ในอนาคตหรือไม่
  • การแสดงข้อมูล Seed แบบ QR code สามารถใช้ร่วมกับ Hardware Wallet ที่รองรับได้ เช่น SeedSigner, Blockstream Jade และ Coldcard Q ส่วน Wallet Descriptor QR สามารถใช้ import เข้าไปใน Sparrow ได้
  • เมื่อ Import ข้อความลับเข้าไปในการ์ดแล้ว ไม่สามารถ Edit ได้ ถ้าอยากแก้ไขต้องลบข้อความเดิม แล้ว Import ข้อความใหม่
  • สำหรับผู้ที่ชื่นชอบสไตล์ของ Ledger หากรู้สึกว่าหน้าการ์ดเรียบเกินไป ไม่โดดเด่นดึงดูด ก็สามารถหาซื้อสติกเกอร์ที่โดดเด่นมาปิดหน้าการ์ดได้ และสำหรับคนทั่วไปก็สามารถซื้อลายเรียบ ๆ มาปิดหน้าการ์ดได้เช่นเดียวกัน
  • การใช้งาน Seedkeeper บนโทรศัพท์มือถือ ผู้ใช้อาจมีความกังวลว่าจะปลอดภัยหรือเปล่า เพราะโครงสร้างสถาปัตยกรรมซอฟแวร์ของโทรศัพท์มือถือนั้น โปรแกรมที่ใช้งานแต่ละโปรแกรมมีความเป็นเอกเทศ เต็มไปด้วย Permission และการป้องกันเพื่อไม่ให้โปรแกรมใดเข้าถึงข้อมูลโปรแกรมอื่น ๆ ในเครื่องได้ แต่เพื่อความไม่ประมาท ผู้ใช้ก็สามารถเปิดโหมด Airplane ก่อนใช้งาน Seedkeeper แล้วค่อยรีบูตโทรศัพท์เมื่อใช้งานเสร็จ นอกจากนี้จุดที่ผู้ใช้งานควรระวังมีอีก 2 จุดคือ 1) เวลา Copy ข้อความไปที่ Clipboard จะทำให้ข้อความกลายเป็นข้อมูลสาธารณะของโทรศัพท์มือถือ และ 2) การถ่าย Screenshot ให้มีรูปส่งไปที่โฟลเดอร์ส่วนกลางที่ใช้ร่วมกับโปรแกรมอื่น หรือหากรูปถูกโหลดขึ้น Cloud ในภายหลังก็จะเพิ่มความเสี่ยง ทำให้การบันทึกข้อความ Seed Phrase ผ่านโทรศัพท์มือถือควรจะพิจารณาให้เป็น hot wallet ยกเว้นโทรศัพท์มือถือที่ซื้อมาใช้แยกเฉพาะไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอีกเลย ผู้เขียนไม่ต้องการให้ประมาท แต่ก็ไม่ต้องการให้ระแวงเกินไป ขอให้มั่นใจว่าระบบรักษาความเป็นส่วนตัวในโทรศัพท์มือถือมีความปลอดภัยที่สูง เพราะหากว่ามีโปรแกรมมิจฉาชีพที่ทะลวง Permission ต่าง ๆ ของมือถือและสแกนข้อมูลภายในโปรแกรมมือถือของเหยื่อได้ง่าย ๆ ผู้คนทั่วโลกคงจะไม่สามารถใช้งาน App ธนาคารต่าง ๆ หรือ Password Manager หรือ Passkey หรือ Lightning wallet บนโทรศัพท์มือถือได้เลย 

ข่าวมิจฉาชีพหลอกโอนเงินทุกวันนี้มักพาดหัวลักษณะ “คุย 5 นาทีสูญเงินทั้งบัญชี” ให้ดูน่าตื่นตระหนก แต่เมื่ออ่านรายละเอียดข่าวเต็ม ๆ จะพบว่ากระบวนการทั้งหมดใช้ระยะเวลานานกว่านั้นมาก และจะอยู่ภายใน 3 กรณี ดังนี้ :

  1. คุยหลอกล่อจนเหยื่อเชื่อใจ และสุดท้ายเหยื่อโอนเงินให้เอง
  2. ใช้วิธี Phishing จนดัก username และ password ได้
  3. เหยื่อยอมลงโปรแกรมควบคุมโทรศัพท์จากระยะไกล

สองข้อแรกสามารถป้องกันได้ด้วยการมีสติ และข้อสามนั้น หากเราไม่ยอมลงโปรแกรมของมิจฉาชีพ หรือไม่ยอมกดยอมรับการควบคุมระยะไกลของมิจฉาชีพ คุณก็จะปลอดภัยจาก 99.9% ของคดีลักษณะนี้

  • การใช้งาน Seedkeeper ในเครื่องคอมพิวเตอร์จะมีความเสี่ยงมากกว่า เพราะมักจะมีช่องโหว่และ Malware มากกว่าโทรศัพท์มือถือ จึงแนะนำให้ใช้งานโปรแกรมแท้ ทำการอัปเดต Aniti Virus และ Scan ก่อน จากนั้นให้ถอดสาย Lan และปิด Wifi ก่อนใช้งาน แต่เพื่อความไม่ประมาท ผู้เขียนขอแนะนำให้โหลด Satochip-Util แบบ Linux แล้วนำไปใช้งานในระบบ Tails OS คุณสามารถศึกษาวิธีการสร้างพื้นที่การใช้งานคอมพิวเตอร์ที่มีความปลอดภัยสูงได้ง่าย ๆ จาก usb drive แท่งเดียวจากบทความนี้
อ่านมาจนถึงตอนนี้ บิตคอยเนอร์ขี้กังวลอาจยังรู้สึกไม่สบายใจ

คำถามคือ “คุณผู้เขียนครับ ผมเองก็รับรู้ข้อดีของ Smart card แต่ผมก็ยังไม่สบายใจกับการพิมพ์ Seed ใส่อุปกรณ์ที่เคยต่ออินเทอร์เน็ต นอกจาก Tails OS แล้วยังมีวิธีอื่นที่จะใส่ข้อความลับแบบ Air-gapped 100% ได้อีกบ้างมั้ย”

คำตอบคือ “มีครับ”

Bonus: การใช้งาน Seedkeeper ร่วมกับ SeedSigner

Crypto Guide เจ้าของช่อง Youtube Crypto Guide ศึกษาบิตคอยน์และอยู่ในโลกคริปโทฯ มาตั้งแต่ปี 2012 และทำวิดีโอให้ความรู้ด้านเทคนิคและคอยรีวิวสินค้าเกี่ยวกับคริปโทฯ ที่ดีมาก ๆ มาตั้งแต่ปี 2019 เค้าเห็นข้อดีของ Seedkeeper และข้อกังวลของผู้ใช้ที่ต้องพิมพ์ Seed ในโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ จึงได้นำ SeedSigner OS มากทำการ fork เพื่อเพิ่มความสามารถในการเชื่อมต่อกับ Seedkeeper สิ่งนี้ช่วยตอกย้ำถึงจุดแข็งของโปรเจกต์ Seedsigner และ Satochip ที่เป็น Open Source ทั้งคู่ เพราะนอกจากนักพัฒนาทั่วไปสามารถตรวจสอบความปลอดภัยแข็งแกร่งของโค้ดแล้ว ยังสามารถนำไปต่อยอดพัฒนาให้ใช้งานร่วมกับโปรเจกต์ที่น่าสนใจอื่น ๆ ได้อีกด้วย

วิธีการสร้าง SeedSigner สามารถศึกษาได้จากบทความนี้ ข้อแตกต่างคือ OS ไฟล์ img ที่ใช้ในการ flash ให้นำมาจาก github ของ Crypto Guide อยู่ที่นี่ อุปกรณ์เสริมที่ต้องมีเพิ่มเติมคือ Smart card reader โดยหัวที่เสียบกับ Pi Zero ของ SeedSigner ต้องเป็นหัว Micro USB (Smart card reader ราคาประมาณ 200 บาท + หัวแปลงเป็น USB type A เพื่อต่อกับคอมพิวเตอร์ ราคา 100 บาท + OTG เพื่อแปลงเป็น Micro USB สำหรับเชื่อมต่อ SeedSigner ราคา 100 บาท รวมค่าอุปกรณ์เสริมไม่เกิน 500 บาท)

วิธีการตรวจสอบไฟล์ของ Crypto Guide แตกต่างจากของ Seedsigner เพราะ Cryto Guide ไม่ได้เลือกใช้ gpg ในการ verify message แต่ใช้การสร้าง Bitcoin Message Signature โดยนำข้อความ message มาผูกกับ bitcoin address แล้วผู้ที่ถือ private key ของ bitcoin address ดังกล่าวเท่านั้นที่จะสามารถเซ็นและแสดงผลลัพธ์ Message Signature ที่ถูกต้องได้ มิจฉาชีพที่ต้องการแก้ไขข้อความแต่ไม่มี private key ของ address ก็จะไม่สามารถสร้างลายเซ็นที่ valid ได้

จากภาพข้างบน 1. คือ Bitcoin Address 2. คือข้อความ และ 3. คือ Message Signature ให้คุณนำข้อความทั้งสามไป Verify ในเว็บ https://www.verifybitcoinmessage.com/ หรือ https://bitaps.com/signature หรือจะใช้ Sparrow Wallet รุ่น 1.8.3 ขึ้นไปก็ได้

เมื่อ Verify ว่าข้อความในข้อ 2. เป็นข้อความที่ valid แล้ว ก็ให้เปิด Terminal และทำการ hash ไฟล์ img ด้วยคำสั่ง “Get-FileHash ชื่อไฟล์ img” ตามบทความ SeedSigner หากผลลัพธ์ SHA-256 ที่ได้ตรงกับในข้อความ 2. แสดงว่าเรามีไฟล์ที่ถูกต้อง สามารถนำไป flash ลง Micro sd card เพื่อนำไปเสียบใช้งานใน SeedSigner ได้ โดยการใช้งานจะเหมือนกับ Seedsigner ปกติ แต่มีเมนูของ Seedkeeper เพิ่มขึ้นมา (วิธีการใช้งาน ศึกษาเพิ่มตามคลิปนี้)

ข้อควรระวัง: ช่อง Micro USB ช่องแรก (ซ้ายสุด) ของ Pi Zero เป็นช่อง Power Only ใช้สำหรับเชื่อมต่อพลังงานเท่านั้น ช่องถัดมาคือช่อง Power + Data การเชื่อมต่อกับ Card Reader จึงควรใช้ช่องนี้เท่านั้น

การวางแผนมรดกด้วย Seedkeeper

Seedkeeper นอกจากจะเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับจดบันทึกช่วยจำรหัสลับทั้งหลายให้กับเราแล้ว ยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการกระจายชุด backup ไปไว้สถานที่เก็บอื่นและการวางแผนมรดกอีกด้วย เนื่องจากข้อมูลในการ์ดถูกเข้ารหัส และหากผู้ถือการ์ดไม่รู้รหัสก็ไม่สามารถ brute force เพื่อดูข้อมูลได้ ทำให้สามารถนำการ์ดไปเก็บไว้ที่ตู้เซฟธนาคารหรือฝากให้ทายาทถือการ์ดไว้เลยก็ได้ โดยแยกรหัสของการ์ดฝากไว้อีกสถานที่หรือกับบุคคลอื่นที่เชื่อใจได้ นอกจากนี้การ์ดมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน เมื่อเวลาผ่านไป 8-10 ปี ผู้ใช้สามารถซื้อการ์ดใหม่มาทำการ clone ข้อมูลจากการ์ดใบเก่าสู่การ์ดใบใหม่ ก็จะเป็นการยืดอายุพินัยกรรมชุดนี้ไปอีก 10+ ปีได้

สำหรับผู้ที่ไม่รู้จะฝากรหัสของการ์ดไว้กับใคร ก็สามารถเลือกใช้บริการของ Dead Man’s Switch เป็นแผนสำรองได้ เว็บไซต์นี้ให้บริการ email protocal โดยผู้สมัครสมาชิกสามารถเขียนอีเมล์ข้อความทิ้งไว้ใน server เมื่อถึงกำหนดเวลาที่ระบุไว้ อีเมล์ข้อความจะถูกส่งไปที่อีเมล์ของผู้รับตามที่ผู้สมัครแจ้งเอาไว้ โดยผู้สมัครจะสามารถกำหนดค่า interval (ช่วงเวลา) ที่ต้องการได้โดยการใส่ชุดตัวเลข เช่น “60,120,180,200” ซึ่งหมายความว่าระบบจะส่งอีเมล์แจ้งเตือนผู้สมัครให้ check in กับทางระบบในวันที่ 60, 120 และ 180 นับจากวันที่ check in ครั้งล่าสุด หากยังไม่มีการ check in ในวันที่ 200 ระบบจะส่งต่ออีเมล์ข้อความที่รับฝากไว้ให้ผู้รับทันที ระบบนี้มีค่าบริการ $50 จ่ายครั้งเดียวใช้ได้ตลอดชีพ เราคงไม่คาดหวังให้บริการนี้คงอยู่ตลอดไป แต่ตราบใดที่บริการนี้ยังคงอยู่ไปพร้อมกับเราและแจ้งให้เรา check in เรื่อย ๆ ก็ถือว่าแผนสำรองของเรายังใช้งานได้อยู่ ซึ่งเว็บไซต์นี้เปิดให้บริการมาตลอดตั้งแต่ปี 2007 

ข้อควรระวัง: ข้อความที่เราฝากไว้กับ Server ของคนอื่น เพื่อความไม่ประมาทควรเลี่ยงเนื้อหาที่คนอื่นอ่านแล้วสามารถนำไปแสวงหาประโยชน์ทันทีได้ เช่น Seed Phrase หรือ URL/Username/Password ที่อยู่รวมกันในข้อความเดียว แต่ควรเป็นข้อความ เช่น รหัส PIN โทรศัพท์ รหัสการ์ดต่าง ๆ รหัสตู้เซฟ หรือที่ซ่อนสมุดจดบันทึก ที่คนร้ายไม่สามารถแสวงหาประโยชน์ได้หากรู้เพียงแค่อีเมล์ของผู้รับข้อความ

ความเห็นส่งท้าย

วิธีการเก็บ backup ขุด Seed Phrase และการส่งต่อให้กับทายาท ถือเป็นคำถามที่ยาก เพราะไม่มีคำตอบที่ดีที่สุดหนึ่งเดียวที่จะเหมาะกับทุกคน ทุกตัวเลือกมีจุดเด่นและจุดด้อย การเลือกใช้อุปกรณ์เก็บ Seed โลหะที่เน้นความคงทน ไม่กลัวน้ำกรดและไฟไหม้ แต่ก็ไม่สะดวกที่จะพกพาและยากที่จะเข้ารหัสข้อมูลเพิ่มอีกชั้น และหากคนอื่นเข้าถึงชุดอุปกรณ์ได้ รหัสก็จะหลุดทันที 

ในขณะที่ Seedkeeper นั้นพกพาสะดวกและมีรหัสป้องกัน จะพกไปต่างประเทศก็ได้ (แต่ถ้าเป็นประเทศที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองสามารถดึงบัตรในกระเป๋าเราไปดูทีละใบ เราก็คงไม่เลือกไปกัน) แต่ความคงทนและกันไฟก็สู้โลหะไม่ได้นั่นเอง

โชคดีที่เราไม่จำเป็นต้องเลือกวิธีใดวิธีหนึ่ง เพราะสามารถเลือก backup ทั้งสองวิธีเลยก็ได้ เนื่องจากทั้งสองวิธีมีราคาที่ไม่แพง เช่น ชุด Seed โลหะนั้นสามารถ DIY ได้ในราคาชุดละร้อยบาท และ Seedkeeper 1 ใบ ราคา 25 EUR (ประมาณ 1,000 บาท) ทำให้บิตคอยเนอร์สามารถเข้าถึงการ backup Seed ทั้งสองรูปแบบได้โดยที่ไม่สะเทือนกระเป๋าเท่าไหร่ เพิ่มทางเลือกการกระจายชุด backup และการวางแผนส่งต่อมรดกที่เหมาะสมกับตัวเอง

ขอให้มีความสุขกับการเก็บรักษาบิตคอยน์ครับ

wazabi

** ทุกบาทหรือทุกซาโตชิที่ donate จะถูกส่งเข้ากระเป๋าของผู้เขียนโดยตรงครับ :) **

Share this post

Leave a Reply

Connect with

Your email address will not be published. Required fields are marked *


Related Posts

Technical & Fundamental
wazabi

วิธีเก็บรักษาชุด Seed บิตคอยน์ด้วย Shamir Backup, Seed XOR และ Border Wallet

มาทำความรู้จักวิธีเก็บชุด Seed บิตคอยน์ที่น่าสนใจ 3 วิธี คือ Shamir Backup, Seed XOR และ Border Wallet ทั้งหลักการและวิธีใช้งานว่าต้องทำอย่างไร

Read More »