ฉิบหายแล้ว!… หรอ… แล้วไง?
คุณนั่งอยู่ในห้องพักของโรงแรม ตรงหน้ามีไอแพดที่เปิดวิดีโอถ่ายทอดสดอาคารคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งซึ่งกำลังมอดไหม้ในเปลวเพลิง ท้องฟ้ายามค่ำคืนถูกบดบังด้วยควันไฟจนดำมืด เป็นฉากหลังช่วยขับเน้นเปลวไฟสีเหลืองส้มสว่างวูบวาบที่แทรกตัวออกมาจากทุกบานประตูและหน้าต่าง พวกมันเริงระบำหยอกล้อกับสายน้ำจากรถดับเพลิงอย่างไม่ยี่หระ ราวกับจะเยาะเย้ยความโศกเศร้าของผู้อาศัยในอาคารนั้นที่กำลังรวมกลุ่มเฝ้าดูการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่อยู่ที่พื้นด้านล่าง
แต่นั่นไม่ใช่คุณ…
เมื่อสองชั่วโมงก่อนขณะที่คุณกำลังเดินทางกลับจากที่ทำงาน คุณไถโทรศัพท์มือถือและเห็นข่าวไฟไหม้ คุณก็เปิดอีกแอปหนึ่งเพื่อหาห้องพักสำหรับคืนนี้ทันที คุณรู้ดีว่าไม่มีประโยชน์ที่จะไปยืนออเหมือนคนอื่น ๆ อยู่แถวนั้น นอกจากจะไม่เกิดประโยชน์แล้วก็มีแต่จะเกะกะการทำงานของเจ้าหน้าที่เสียเปล่า ๆ ตอนนี้คุณก็เลยลงเอยด้วยการนั่งอยู่บนเตียงนุ่ม ๆ เปิดแอร์เย็นฉ่ำ ๆ พลางละเลียดไวน์แดงที่สั่งจากล็อบบี้ขึ้นมา ทำใจให้สบาย คุณรู้ดีว่าไม่มีอะไรดีกว่านี้ที่คุณจะสามารถทำได้แล้ว
ว่ากันตามตรง คุณเป็นคนที่ค่อนข้างใส่ใจเรื่องความเสี่ยงกว่าคนทั่วไป ในห้องพักของคุณเก็บของมีค่าไว้ไม่มากนัก และคุณก็มั่นใจได้ว่าของทุกชิ้นจะได้รับการคุ้มครองโดยประกันอัคคีภัยที่คุณทำไว้ ที่สำคัญคือคุณมั่นใจเหลือเกินว่าบิตคอยน์ของคุณจะยังคงปลอดภัยดี ถึงแม้ Hardware Wallet ของคุณจะกลายเป็นเถ้าไปพร้อมกับสิ่งอื่น ๆ ในห้องแล้ว แต่ Seed Phrase ที่คุณเก็บไว้ในตู้ลิ้นชักข้างเตียงจะต้องปลอดภัยแน่นอน เพราะคุณบันทึกมันไว้ในแผ่นโลหะไทเทเนียมที่แข็งแกร่งเป็นที่สุด และสำหรับ Seed ของคุณ… เปลวนรกที่คุณเห็นในหน้าจอก็ไม่ต่างอะไรกับน้ำอุ่นเลย แผ่นโลหะที่ว่ามันกันกระสุนได้ด้วยซ้ำ!
และที่สำคัญ คุณทุ่มเงินเกือบครึ่งหมื่นสั่งเจ้าสิ่งนี้มาจากต่างประเทศ จะมีอะไรในโลกนี้ที่ทนทานไปกว่ามันได้กันเล่า!?
หลังไลฟ์สดรายงานว่าเจ้าหน้าที่คุมเพลิงได้แล้ว คุณก็เข้านอนอย่างสบายด้วยฤทธิ์แอลกอฮอลล์อ่อน ๆ ในกระแสเลือด ฝันหวานไปไกลถึง Bull Run รอบหน้าว่าบิตคอยน์ที่คุณสะสมไว้จะเปลี่ยนชีวิตคุณไปอย่างไร และมีเรื่องเจ๋ง ๆ ไปเล่าให้เพื่อน ๆ บิตคอยเนอร์ฟังว่าบิตคอยน์ของคุณรอดจากเหตุการณ์ไฟไหม้มาเพราะคุณฉลาดเลือกอย่างไร

เช้าวันถัดมา คุณลุกขึ้นเปิดม่านรับแสงแดดและชมวิวเมืองกรุงจากหน้าต่างโรงแรมชั้นยี่สิบเจ็ด หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาปัดแจ้งเตือนแชทที่มีคนทักมาถามไถ่ทิ้งอย่างรำคาญใจ นิ้วโป้งขยับซ้ายทีขวาทีอย่างรวดเร็วตามสัญชาติญาณ จนกระทั่งคุณเห็นการแจ้งเตือนอันนึงที่ดูเหมือนจะไม่ได้มาจากโซเชียลมีเดีย แต่มันมาจากแอป BlueWallet มาจากกระเป๋า Watch-only Wallet ที่คุณ Import Xpub มาจาก Hardware Wallet ของคุณ
และการแจ้งเตือนน้้นบอกว่าบิตคอยน์ทั้งหมดของคุณถูกโอนออกไปเมื่อสามชั่วโมงที่แล้ว
เชี่ย…
กลับมาที่เรื่องของเรา : งั้นจะเก็บบิตคอยน์อย่างไรดี?
ปีกว่า ๆ ที่ผมคลุกคลีอยู่ในคอมมูนิตี้บิตคอยเนอร์ชาวไทย เราเจอกับคำถามอย่าง “ใช้ Hardware Wallet รุ่นไหนดี?” หรือ “จด Seed Phrase อย่างไรดี?” ซ้ำไปมากันจนแทบจะเอียนเบื่อ
และหลายคำถามก็มีคำตอบที่แทบจะเป็นสูตรตายตัวอยู่แล้ว อย่างถ้าให้แนะนำ Hardware Wallet เราก็จะตอบไปว่าให้เลือกแบรนด์ที่อยู่มานานและไม่มีประวัติโดนแฮ็ก หรือถ้าถามถึงชนิดของวัสดุที่เหมาะสำหรับการจด Seed เราก็จะตอบไปว่าให้เลือกโลหะที่มีจุดหลอมเหลวสูงและไม่เป็นสนิม จะได้ทนน้ำทนไฟ
แต่มีคำถามอีกประเภทหนึ่งที่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีคำตอบที่ดีที่สุดเป็นสูตรสำเร็จ อย่างเช่น:
- เราควรจด Seed เก็บแยกกันไว้กี่ชุดดี?
- เราจำเป็นต้องใช้ Passphrase ไหม?
- Shamir Backup น่าใช้หรือเปล่า?
- เราควรเก็บบิตคอยน์แยกเป็นหลาย ๆ Seed ไหม? แยกเป็นกี่กระเป๋าดี?
นี่เป็นแค่คำถามเบื้องต้นส่วนหนึ่งเท่านั้น อาจจะมีคำถามแบบอื่นอีกก็เป็นได้ ซึ่งสองสามวันที่ผ่านมาผมกลับมาคิดใคร่ครวญลงลึกเกี่ยวกับคำถามเหล่านี้ด้วยเหตุผลหลาย ๆ อย่าง
เพราะฉะนั้นผมก็เลยได้คำตอบที่สมบูรณ์แบบงั้นหรือ? — เปล่า 555
แต่ผมพอจะได้วิธีที่จะช่วยให้เพื่อน ๆ ได้ค้นพบคำตอบที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด ได้ด้วยตัวเอง
แล้วเราควรเริ่มต้นจากอะไรให้การ Self-custody นั้นปลอดความเสี่ยง?
หลักการพื้นฐานที่สุดที่ควรรู้ไว้เกี่ยวกับการ Self-custody ก็คือบิตคอยน์นั้นจะยังเป็นของคุณอย่างสมบูรณ์ ก็ต่อเมื่อคุณยังคงเป็นคนเดียวในโลกที่รู้ หรือสามารถเข้าถึง Private Key ที่ใช้ในการปลดล็อกบิตคอยน์นั้น
ย้ำอีกครั้ง บิตคอยน์นั้นจะยังเป็นของคุณโดยสมบูรณ์ ตราบใดที่ Private Key ที่ใช้ล็อกบิตคอยน์นั้น…
- คุณยังคงรู้ หรือสามารถเข้าถึงมันได้
- คนอื่นไม่รู้ และไม่สามารถเข้าถึงมันได้
เพราะฉะนั้นลองมาวิเคราะห์นิยายสั้นต้นบทความกัน ตัวละครหลักในเรื่องให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการเก็บรักษา Private Key ให้อยู่ยงคงกระพัน ทว่าเขาออกแบบวิธีการ Self-custody ของตัวเองได้ห่วยแตกมาก ถ้าพิจารณาตามสองข้อข้างต้น เพราะ :
- ตัวละครนี้พักอาศัยอยู่ในคอนโด ซึ่งหากเกิดเหตุเพลิงไหม้เขาจะถูกกันไม่ให้เข้าพื้นที่เกิดเหตุเป็นเดือน ๆ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถเข้าถึง Private Key ของตัวเองได้
- ในระหว่างนั้น ตั้งแต่วินาทีแรกที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ ไปจนกระทั่งเขาได้รับอนุญาตให้เข้าไปในตัวอาคารได้อีกครั้ง พื้นที่เกิดเหตุยังคงสามารถถูกเข้าถึงได้โดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจมีใครบางคนพบเห็น Seed Backup ของเขา และหยิบฉวยไป Recover เพื่อดึงเงินออกได้ตลอดเวลา
นั่นคงพออธิบายได้ว่าทำไมเราจึงไม่สามารถมีคำตอบที่สมบูรณ์แบบและดีที่สุดสำหรับทุกคนได้ เพราะว่าแต่ละคนมีเงื่อนไขชีวิต มีทรัพยากร และมีความรู้ความสามารถไม่เท่ากัน
- คุณพักอาศัยในอาคารแบบไหน?
- คุณมีสถานที่ให้เก็บซ่อน Seed Backup ได้หลายที่หรือเปล่า?
- คุณมีใครที่พอจะฝากให้ช่วยเก็บรักษาแบ็กอัพได้ไหม?
- คุณมีทายาทที่อยากให้รับช่วงต่อบิตคอยน์หรือไม่? พวกเขามีความรู้แค่ไหน?
- และอีกหลายปัจจัย!

ดังนั้นคงเป็นภาระของคุณในฐานะบิตคอยเนอร์ที่จะต้องจินตนาการว่า ถ้ามีเหตุการณ์แบบนั้นแบบนี้เกิดขึ้น คุณยังคงเป็นคนเดียวในโลกที่เข้าถึงบิตคอยน์ของตัวเองได้อยู่หรือไม่ ถ้าไฟไหม้ล่ะ? ถ้าแผ่นดินไหวล่ะ? ถ้าน้ำท่วมล่ะ? ถ้าพายุเข้าล่ะ? หากบางสถานการณ์ให้คำตอบว่า ‘ไม่’ หลังจากนั้นคุณคงพิจารณาได้เองว่าถ้าจะปิดจุดอ่อนนั้นจะต้องปรับเปลี่ยนวิธีการเก็บ Private Key อย่างไร หรือว่าจะเต็มใจยอมรับความเสี่ยงที่ว่าหากเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้น คุณก็จะต้องสูญเสียบิตคอยน์ทั้งหมดไป นั่นก็เป็นสิทธิ์ของคุณเช่นกัน
ย้ำอีกครั้ง ความเสี่ยงในการเก็บรักษาบิตคอยน์ด้วยตัวเองไม่เหมือนกับความเสี่ยงในการลงทุน เราไม่ได้กำลังพูดถึงความเป็นไปได้ที่คุณจะขาดทุน 5% 10% 20% หรือ 50% จากการตัดสินใจที่ผิดพลาด
เพราะหากคุณตัดสินใจผิดพลาดในการ Self-custody ความเสียหายที่เกิดขึ้นคือ 100% ของสิ่งที่คุณมี
นั่นนำมาสู่สิ่งที่เราต้องการจะนำเสนอจริง ๆ ในบทความนี้ มันคือ Self-custody Checklist ที่คุณสามารถใช้เพื่อประเมินความเสี่ยงในการเก็บรักษาบิตคอยน์ของคุณ ว่ายังมีความอ่อนไหวต่อเหตุการณ์แบบไหนบ้าง และจะทำอย่างไรที่จะกำจัด ‘Single Point of Failure’ ให้เหลือน้อยที่สุด
ขอให้มีความสุขกับการเป็นเจ้าของบิตคอยน์อย่างแท้จริงครับ
One comment
[…] คำถามเกี่ยวกับ Hardware Wallet เหล่านี้น่าจะเคยโผล่ขึ้นมาในหัวบิตคอยเนอร์บ้างหลังจากศึกษาบิตคอยน์และการ Self Custody มาระยะหนึ่ง เพราะ Hardware Wallet คืออุปกรณ์สำคัญที่จะช่วยให้เราแสดงความเป็นเจ้าของบิตคอยน์ใน blockchain โดยนอกจากจะใช้สร้าง Seed แล้วก็ยังมีหน้าที่เซ็นธุรกรรมการโอนบิตคอยน์ […]